อย่างที่เราทราบกันดีล่ะว่า สถานที่เที่ยวญี่ปุ่น มีอยู่มากมายหลายที่ แบบนับกันไม่ถ้วน แล้วคนไทยก็นิยมไปเช็คอินญี่ปุ่นกันบ่อยมาก (เพื่อนๆ ผู้เขียนหลายคน ก็จดจ้องอยู่ว่า พ้นช่วงโควิด เมื่อไหร่ จะไปเยือนแน่นอน) องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) รายงานว่า คนไทยเห่อเที่ยวญี่ปุ่น ติดอันดับ 5 ของโลกเลยทีเดียว ! เพื่อนผู้เขียนเล่าต่อว่าที่ชอบประเทศญี่ปุ่นเป็นชีวิตจิตใจเสมือนเป็นประเทศในฝันเลยก็ว่าได้ (ตาเคลิ้มเชียว) ชอบความสงบเรียบร้อย ไม่วุ่นวาย เป็นระเบียบ การคมนาคมรถไฟฟ้าซินกาเซนก็สะดวกสุด สุด ขวักไขว่กันยิ่งกว่าใยแมงมุม ถ้านั่งผิดสาย มีอันต้องนั่งย้อนมา (อันนี้ ผู้เขียนเคยนั่งผิดเป็นประจำ) แท็กซี่ก็เวรี่สุภาพ รถไฟก็ตรงเวลาเป๊ะ ครั้นจะเดินทางไปตามเกาะต่าง ๆ ในญี่ปุ่น ก็สะดวก ราคาไม่แพง ที่สำคัญ อาหารญี่ปุ่น เนี่ย ยกนิ้วโป้งให้สองโป้งเลย ทานเยอะ ไม่อ้วน ปลาดง ปลาดิบ การประดิดประดอยของกินทุกชนิด รสชาติกลมกล่อม ดีไซน์สวยงาม ชนิดต้องยกมือถือมาถ่ายภาพไปโพสบอกเพื่อน (อีกต่างหาก) ว่ากันว่า ไม่ใช่แค่ศิลปะสวย ๆ บนถาดอาหาร แต่มีเหตุผลซ่อนอยู่ว่า ทำไมต้องวางแบบนี้ (โอ้โห้ )
เอกลักษณ์ของอาหารญี่ปุ่น
“ความสดใหม่ของวัตถุดิบที่ใช้ในการปรุงอาหาร” ถือเป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรมที่เด่นชัดของญี่ปุ่น ความสดของวัตถุดิบ ความสะอาด คือการรักษาคุณภาพรสชาติอาหารให้คงความสดเสมอ และนี่คือเหตุผลที่เราจะเห็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มักใช้วิธีการปรุงอาหารโดยเน้นความหลากหลายของวัตถุดิบสด ๆ ทางธรรมชาติที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใด ใด แบบโชว์ผ่านกระจกใสเห็นกันอย่างชัดเจน และผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า คนญี่ปุ่น ยังมีคำนิยามไว้สำหรับอาหารญี่ปุ่นนั้น จะต้องมี 5 รสชาติ 5 สี รับรู้จาก 5 สัมผัส และใช้ 5 วิธีในการปรุงอาหาร โห้..จริงดิ ใช่ค่ะ อธิบายตามนี้ :-
- 5 รสชาติ ได้แก่ รสหวาน รสเปรี้ยว รสเค็ม รสขม และรสเผ็ด
- 5 สี ได้แก่ สีขาวจากข้าว สีดำ(สีม่วง) จากสาหร่าย สีเหลือง จากผักบางชนิด สีแดง จากปลา และเนื้อสัตว์ และแน่นอน สีเขียวจากผักญี่ปุ่น
- 5 สัมผัส อันได้แก่ ตา ที่มองเห็นสีสันของอาหาร หู ที่ได้ยินเสียง (เช่นเสียงอาหารบนกระทะร้อน) จมูก ที่ได้กลิ่นอาหารหอม ๆ และสุดท้ายคือ ปาก ที่บรรจงรับรสชาติที่ละมุนลิ้น (จนลืมกลืน)
- 5 ปรุงอาหาร ได้แก่ ย่าง ต้ม ทอด นึ่ง และอาหารสด
เช็คพฤติกรรม กินแบบไหน น้ำตาลขึ้นสูงชัวร์
ใครว่า…ความดันเลือดสูง ไม่อันตราย
ผู้อ่านหลายท่านที่ชื่นชอบอาหารญี่ปุ่น แน่นอนจะต้องเคยลองสั่งอาหารเพื่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่น เมนูที่คล้ายเป็นอาหารเซท (เสริฟเป็นถาด) แต่เคยสงสัยไหมว่า รายละเอียดในการจัดวางของอาหารเหล่านั้นเป็นอย่างไร อ่ะ เรามาดูกันค่ะ
อาหารเพื่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่น
ชุดอาหารญี่ปุ่นหลัก อิจิจูซันไซ
อิจิจูซันไซ คำว่า “อิชิ” หมายถึง หนึ่ง คำว่า “จู” หมายถึง ซุป ส่วนคำว่า “ซัน” หมายถึง สาม และ “ไซ” หมายถึง จาน แปลรวมกันหมายถึง น้ำซุป หนึ่งอย่าง และกับข้าว 3 อย่าง โดยมีเครื่องเคียงรวมกันทั้ง 3 อย่าง เช่น เสริฟข้าวกับน้ำซุปอย่างน้ำซุปมิโซะ ซุปสาหร่าย โดยมีการจัดวางให้สวยงาม :-
- ข้าว วางบริเวณซ้ายมือสุด
- น้ำซุป วางบริเวณขวามือสุด
- อาหารหลัก วางบริเวณด้านบนของตำแหน่งถาดอาหาร เช่น ข้าวหน้าปลาซาบะ เป็นต้น
- เครื่องเคียง เช่น ผักดอง วางไว้ตรงกลางระหว่างข้าวกับน้ำซุป
- และตะเกียบ จะถูกวางรวบไว้เป็นแนวนอนบริเวณข้างล่างข้าว
อย่างที่เราชาวไทยทราบกันดีว่า ประเทศญี่ปุ่น ก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุเร็วกว่าประเทศไทย ถึง 10 ปี และประเทศญี่ปุ่นยังติดอันหนึ่งในโลกที่มีประชากรอายุยืนมากที่สุด และแน่นอน เหตุผลหนึ่งที่สำคัญที่ทำให้คนญี่ปุ่นอายุยืนนั้น ย่อมมาจากการเลือกรับประทานอาหาร วันนี้ ผู้เขียนจะพามาดูกันว่า นอกจากอาหารญี่ปุ่น ที่มีการดีไซน์สวยงาม มีความคิดสร้างสรรค์เป็นเลิศ รสชาติอาหารที่อร่อย แถมยังช่วยดูแลสุขภาพแบบอายุวัฒนะด้วย มีอะไรบ้าง :-
-
ถั่วนัตโตะ อาหารเพื่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่น
หยิบมาไว้เป็นลำดับแรกเลย เพราะชาวญี่ปุ่น นิยมทานเป็นอาหารเช้า หลายคนอาจสงสัยเจ้าตัวถั่วนัตโตะ คืออะไร นัตโตะ เป็นอาหารพื้นเมืองของประเทศญี่ปุ่น ทำจากถั่วเหลือง หมักด้วยเชื้อแบคทีเรีย Bacillus Subtilis มีลักษณะยืด ๆ เหนียว ๆ และมีกลิ่นเฉพาะตัว (ที่แรงฉุนมาก) กลิ่นที่แรงนี้ เกิดจากการย่อยสลายตัวของโปรตีนโดยผ่านกระบวนการหมักนั่นเอง ! การหมักแบบนี้ แตกต่างจากการหมักซีอิ้ว เพราะใช้จุลินทรีย์คนละชนิด ถั่วนัตโตะ มีประวัติความเป็นมาระดับมหากาพย์กันเลยทีเดียว ในสมัยก่อน จะผลิตทำกันในครัวเรือน พูดง่าย ๆ คือ ทำทานกันเอง อร่อยกันเองในบ้าน แต่ปัจจุบัน ด้วยเพราะมีงานวิจัยหนุนประโยชน์ของถั่วนัตโตะเป็นปึก ๆ จำนวนมาก (เสิร์ชอ่านได้ในกูเกิลแสนง่าย) ทำให้มีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนากันมากขึ้น จนทำให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมกันเลยทีเดียว ถั่วนัตโตะ เป็นถั่วชนิดเดียวที่มีสารสกัดเข้มข้น เรียกว่า “Nattokinase” มีประโยชน์ช่วยลดไขมันในเลือด ลดไตรกลีเซอไรด์ และยังมีวิตามิน K2 (Vitamin K2) ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ลดความเสี่ยงของการแตกหักอันเนื่องมาจากภาวะกระดูกพรุน และยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นให้กับกระดูกสำหรับผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
-
วาซาบิ
เจ้าตัวเครื่องปรุงสีเขียว กลิ่นฉุน รสชาติเผ็ดร้อน ใส่ในอาหารญี่ปุ่น ไม่เพียงให้ความอร่อย เผ็ดร้อนแล้ว ยังมีงานวิจัยของท่าน โตชิโอะ ลิยามา ชาวญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า วาซาบิ มีผลในการฆ่าเชื้อโรค สามารถต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด และยังสามารถกำจัดพยาธิ ที่อาศัยในปลาได้อีกด้วย และเมื่อไม่นานมานี้ ยังมีงานศึกษาพบอีกว่า วาซาบิ มีฤทธิ์ต่อต้านสารก่อมะเร็ง เป็นผลดีต่อผิวหนัง และยังช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตันได้ดี ประโยชน์มากขนาดนี้ ใครที่ยังไม่เคยลอง วาซาบิ คงต้องลองตักชิมสักนิดนึง
-
พลัมแห้ง
เคยมีคนญี่ปุ่น บอกกับผู้เขียนว่า ถ้าไม่รู้สึกอยากอาหาร เบื่ออาหาร ใหลองทานพลัมแห้งสัก 1 ลูก รับรองจะดีขึ้น เพราะความเปรี้ยวของพลัมแห้ง จะส่งผลผ่านไปยังลิ้นสัมผัส และอวัยวะย่อยต่าง ๆ ในร่างกาย ซึ่งช่วยกระตุ้นน้ำย่อยให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ พลัมแห้งถือเป็น อาหารเพื่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่นที่ช่วยในการไหลเวียนเลือด มีส่วนช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน และแก้อาการเมาค้างได้ (อันนี้ น่าจะเหมาะกับนักดื่มตัวยง)
-
สาหร่าย
จานโปรดเล็ก ๆ ของผู้อ่านหลายท่าน (รวมถึงผู้เขียนด้วย สาหร่ายญี่ปุ่นยำด้วยนะคะ) สาหร่าย อุดมไปด้วยวิตามิน และเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น แคลเซียม สังกะสี ซีลีเนียม ไอโอดีน รวมถึง วิตามิน เอ วิตามิน ซี วิตามิน อี และ วิตามิน บี 12 แถมเป็นเมนูโปรดของคนต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะทานเยอะ ไม่อ้วน สาหร่ายญี่ปุ่น ยังเป็นแหล่งโปรตีนที่วิเศษสุด แถมช่วยลดน้ำตาลในเลือดด้วยค่ะ
-
ถั่วแระญี่ปุ่น
ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า เอดามาแมะ (Edamame) ถือว่า ถั่วแระญี่ปุ่นมีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก กล่าวคือ ในถั่วแระมีทั้งสารไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก ลดอาการวัยทอง มีวิตามิน เอ บี ซี และวิตามิน เค แถมถั่วแระญี่ปุ่น มีเส้นใยอาหารสูง แถมแคลอรี่ต่ำ อีกหนึ่งเมนูที่ทานเยอะ ไม่อ้วน แน่นอน และนั่นเป็นเหตุผลให้ถั่วแระญี่ปุ่นจัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพของชาวญี่ปุ่น และเหมาะสำหรับคนที่ต้องการควบคุมน้ำหนักอย่างแท้ทรู
-
ปลา
ถือเป็นอาหารหลักที่ชาวญี่ปุ่นนิยม เนื่องจากเป็นประเทศที่ติดกับทะเล ผู้คนส่วนใหญ่ จึงนิยมกินปลา และเน้นเป็นปลาทะเล ที่มีความสด ปลอดภัย โดยปลาที่ขึ้นชื่อนิยมมากที่สุด คือ ปลาแซลมอน เนื่องจากหาง่าย มีเป็นจำนวนมาก แถมทานปลาแซลมอน นอกจากย่อยง่ายแล่ว เราจะได้ทั้งโปรตีน วิตามิน โอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคหัวใจ การทานปลาแซลมอน ทำให้มีสุขภาพดี มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการทานเนื้อสัตว์
-
ข้าว
ถือเป็นอาหารหลักของชาวญี่ปุ่น เช่นเดียวกับคนไทย ข้าวญี่ปุ่น จะมีลักษณะที่เหนียว หนึบ เม็ดอ้วน กลม มีวิตามินมากมาย ชาวญี่ปุ่น ยังนิยมรับประทานข้าวปั้น (Sushi) โดยข้าวปั้น จะผสมกับน้ำส้มสายชู โดยสามารถทานคู่กับเนื้อปลา เนื้อต่าง ๆ หรืออาหารคาวอื่น ๆ แบบชนิด ไร้ไขมันเกาะ เลยค่ะ
ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมคนญี่ปุ่น ถึงได้มีอายุยืนยาวกว่าประเทศอื่น ๆ ในโลก ตามสถิติที่ลงบันทึกใน World Health Statistics เพราะเกิดจากวิถีการใช้ชีวิตประจำวัน และพฤติกรรมการเลือกกินอาหารของคนญี่ปุ่น หรือเรียกว่า You Are What You Eat นั่นเอง และถ้าพิจารณาลงไปในรายละเอียดของอาหารมื้อหลักของชาวญี่ปุ่น จะพบว่า อาหารญี่ปุ่น นั่นมีพื้นฐานหลักอยู่ที่ ข้าว ปลา ถั่วเหลือง ผัก และ ผลไม้ นั่นเอง เย็นนี้ ขอแว๊บทานดินเนอร์อาหารญี่ปุ่นใกล้บ้านกันค่ะ พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ
………….
(เครดิต : The Japanese Diet : Benefit, Food List and Meal Plan www.healthline.com, Why Japanese So Healthy www.bbcgoodfood.com, Allabout-Japan, www.i-kinn.com)
(Photo : All about Japan)