ผักสวนครัวบ้านเรามีให้เลือกหลากหลายเลยครับ แต่ถ้าหากพูดถึงผักสวนครัวที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย เป็นผักที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของกลิ่น เป็นตัวช่วยเพิ่มรสชาติให้กับอาหารต่างๆ ช่วยดับคาว เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง สิ่งที่เด้งขึ้นมาในหัวจะเป็น “ผักชีฝรั่ง” เราจะมาอธิบายว่า ประโยชน์ของผักชีฝรั่ง มีอะไรบ้าง ผักชีฝรั่งข้อควรระวังมีอะไรบ้าง ดอกผักชีฝรั่ง ทำอะไรได้บ้าง?
H2 : 5 ประโยชน์ของผักชีฝรั่ง สารต้านอนุมูลอิสระสูง ดีกับร่างกาย
ผักชีฝรั่งหรือผักชีใบเลื่อน เป็นผักสวนครัวอย่างหนึ่งที่คนไทยอย่างเราคุ้นเคยกันดีครับ นอกจากจะมีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ช่วยเพิ่มรสชาติ ลดกลิ่นคาว ก็มีประโยชน์หลากหลายด้วยเช่นกัน ประโยชน์ของผักชีฝรั่ง จะมีด้วยกันดังนี้ครับ
1. อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ประโยชน์ของผักชีฝรั่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด โดยเฉพาะ
- เบต้าแคโรทีน (Beta-carotene): ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ มีบทบาทสำคัญในการบำรุงสายตา และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องผิวพรรณจากการทำลายของแสงแดด ชะลอการเกิดริ้วรอย
- วิตามินซี: ไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน แต่ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ช่วยในการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวพรรณสดใสและแข็งแรง
- สารประกอบฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์: เป็นกลุ่มสารพฤกษเคมีที่มีงานวิจัยมากมายสนับสนุนว่ามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง ช่วยลดการอักเสบในระดับเซลล์
2. มีส่วนช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
เมื่อพูดถึงกระดูกและฟัน คนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงนม แต่ผักใบเขียวอย่างผักชีฝรั่งก็เป็นแหล่ง “แคลเซียม” ที่ดีไม่แพ้กัน แคลเซียมเป็นแร่ธาตุหลักที่เป็นองค์ประกอบของมวลกระดูก การได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอจึงจำเป็นอย่างยิ่งในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในวัยเด็กที่กำลังเจริญเติบโต และในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงต่อ รคกระดูกพรุนสูง การเพิ่มผักชีฝรั่งในเมนูอาหารจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆ ในการเสริมสร้างมวลกระดูกให้หนาแน่น โรคกระดูกพรุนต้องกินอะไร? ผักชีฝรั่งจะเป็นตัวเลือกที่ดีครับ และมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของกระดูกเปราะหักง่ายในอนาคต
3. เป็นมิตรกับสุขภาพหัวใจ
ประโยชน์ของผักชีฝรั่งอย่างหนึ่งคือมีแร่ธาตุ “โพแทสเซียม” ซึ่งทำงานร่วมกับโซเดียมในการรักษาสมดุลของเหลวในร่างกายและควบคุมความดันโลหิต โพแทสเซียมจะช่วยขับโซเดียมส่วนเกินออกจากร่างกายผ่านทางปัสสาวะ ซึ่งการมีโซเดียมในร่างกายสูงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญของภาวะความดันโลหิตสูง
4. ดีกับระบบย่อยอาหาร
ผักชีฝรั่งถูกใช้เป็นยา “ขับลม” (Carminative) มาอย่างยาวนาน กลิ่นหอมฉุนและน้ำมันหอมระเหยในใบมีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อย ทำให้การย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นท้อง
5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
ด้วยปริมาณ วิตามินซี ที่สูง ผักชีฝรั่งจึงมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นทหารเอกของระบบภูมิคุ้มกันในการต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ
ผักชีฝรั่ง ข้อควรระวังที่ต้องรู้
แม้ว่าประโยชน์ของผักชีฝรั่งจะมีหลายอย่างด้วยกัน แต่การทานมากเกินไปก็อาจเป็นผลเสียแทนได้ครับ เพราะผักชีฝรั่งมีปริมาณกรดออกซาลิก (Oxalic Acid) ค่อนข้างสูง ซึ่งหากบริโภคในปริมาณมากและต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีประวัติเป็นโรคไตหรือมีภาวะเสี่ยงอยู่แล้ว ควรบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะและไม่บ่อยจนเกินไป
ดอกผักชีฝรั่ง ทำอะไรได้บ้าง
ดอกผักชีฝรั่งสามารถรับประทานได้เช่นกัน และมีกลิ่นหอมเช่นเดียวกับใบ สามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู โดยนิยมนำไป:
- ใส่ในต้มยำหรือแกงต่างๆ: เช่น ต้มยำ, ต้มแซ่บ, แกงอ่อม เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น
- ใช้โรยหน้าอาหาร: สามารถนำดอกไปซอยและโรยบนยำ ลาบ หรือน้ำตก เพื่อเพิ่มความสวยงามและกลิ่นหอม
- รับประทานเป็นผักเคียง: สามารถนำดอกสดไปรับประทานคู่กับน้ำพริกหรืออาหารรสจัดอื่นๆ ได้
ประโยชน์ของผักชีฝรั่งมีด้วยกันหลายอย่างครับ ตั้งแต่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จำเป็นต่อร่างกาย มีส่วนช่วยเสริมกระดูกและฟันให้แข็งแรง ดีต่อสุขภาพหัวใจ ดีกับระบบย่อยอาหาร ป้องกันท้องผูก ท้องเฟ้อ รวมถึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
แต่การทานผักชีฝรั่งมากเกินไปก็ไม่มีผลดีครับ เพราะเป็นผักที่มีกรดออกซาลิกสูง ไม่ดีกับผูัป่วยนิ่วในไตหรือกระเพาะปัสสาวะ เราควรทานในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดีครับ
นอกจากนี้ การเลือกทานนัตโตะ สูตรใส่ใจสุขภาพ ที่คนรักสุขภาพเลือกใช้ ชีวิตที่สมบูรณ์ ใส่ใจตัวเองทุกวัน
อ่านบทความเพิ่มเติม:
4 ประโยชน์ของใบโหระพา ผักมากสรรพคุณ เด่นทั้งรสและกลิ่น
6 ผักที่ให้โปรตีนสูง ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อและดีกับร่างกาย