ทุเรียน มากคุณค่า พอดีคำ !
เมื่อช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปฉลองตรุษจีนกับเพื่อนสนิทชาวมาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ต้องขอบอกว่า ตรุษจีนในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เรา เช่น ฮ่องกง สิงค์โปร์ ไต้หวัน มาเลเซีย ถือเป็นวันใหญ่มาก เคยมีเพื่อนชาวไต้หวัน บอกว่า บริษัทให้พนักงานหยุดเพื่อเฉลิมฉลองกันแบบข้ามสัปดาห์กันเลยทีเดียว ต้องขอขอบคุณ Air Asia พาดิฉันมาถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์ อย่างปลอดภัย ในเมืองหลวงอย่าง กัวลาลัมเปอร์ นอกจากร้านต่าง ๆ จะประดับประดาด้วยโคมแดงแล้ว สิ่งที่สังเกตเห็นเด่นชัด คือ ร้านอาหารจีนต่าง ๆ จะสรรหาเมนู (ที่เสริฟเฉพาะช่วงตรุษจีน) สะดุด เมนูหนึ่งที่พิเศษมีเฉพาะช่วงตรุษจีน มีชื่อเรียกว่า “Yusheng” น่าตาอาหารน่ารับประทานมาก มีลักษณะเหมือนสลัดผักนานาชนิด ที่ถูกสับเป็นฝอยวางรวมกัน เมนูนี้ ถือเป็นความเชื่อที่จะเสริมความรุ่งโรจน์ตลอดปีใหม่นี้ โดยชาวจีนเชื่อว่า ยิ่งโยนสลัดสูงเท่าไร ก็ยิ่งได้รับความโชคดีมากขึ้นเท่านั้น บอกได้เลยประทับใจมากในค่ำมื้อเย็นวันนั้น พอวันรุ่งขึ้น ระหว่างทางที่ดิฉันกำลังเดินทางกับเพื่อนมาเลย์ ตาเหลือบไปเห็นร้านริมถนน ร้านนี้เต็มไปด้วยกรุ๊ปทัวร์จีนใส่เสื้อสีแดง ลงมาแวะชิมทุเรียนกัน ต้องขอบอกว่า หนึ่งในผลไม้เศรษฐกิจที่ส่งออกของประเทศมาเลเซียและทำรายได้ดี นั่นคือ “มู ซาง คิง” ทุเรียนมาเลเซียที่ขึ้นชื่อลือชา นั่นแหละค่ะ เลยบอก taxi ทันทีเลยว่า “จอดค่ะ” สมดังหมายโชเฟอร์แท็กซี่ จอดทันทีที่สิ้นคำ เราเองยัง งง เพราะโชเฟอร์เล่นจอดกลางถนน และให้พวกเราได้ลงเลย…
มูซางคิง ราชาทุเรียน
มูซางคิง ถือเป็นราชาทุเรียนของประเทศมาเลเซีย จัดได้ว่าเป็นทุเรียนที่มีราคาสูงที่สุดสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวจีนอย่างล้นหลาม ด้วยรสชาติที่หวาน มัน มีเมล็ดลีบ ขณะกินสุก 100% ด้วยราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาทในประเทศจีน ! น้ำหนักผลโดยเฉลี่ย 2 – 2.5 กิโลกรัม ราคาที่จำหน่ายในประเทศมาเลเซีย ราว 100 – 120 ริงกิต หรือประมาณ 800 – 900 บาทต่อกิโลกรัม ในประเทศไทยนิยมปลูกที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา รัฐบาลมาเลเซีย ถึงกับตั้งเป้าส่งออกทุเรียน มู ซาง คิง ให้ได้ 50% ภายในปี 2575 หรืออีก 12 ปีข้างหน้า และแน่นอน ประเทศที่มีความต้องการทุเรียนสายพันธ์นี้สูงสุด คือ ประเทศจีน อย่างไรก็ดี ข้อมูลการค้าของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พบว่า ปีที่แล้ว ประเทศจีนนำเข้าทุเรียนเพิ่มขึ้น 15% หรือเกือบ 350,000 ตัน เกือบ 40% ในนี้ เป็นทุเรียนไทย ส่วนทุเรียนมาเลเซีย ยังมีน้อยมาก อาจเป็นด้วยเหตุผลของผลผลิตที่ยังน้อยอยู่ และอีกเหตุผลหนึ่งที่มองข้ามความพิเศษไม่ได้ คือ ทุเรียน มู ซาง คิง ต้องรอให้มันสุกเอง หล่นจากต้น แล้วเก็บมาจำหน่าย ทำให้เป็น มู ซาง คิง เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภคชาวจีนอย่างมาก เพราะจะได้รสชาดของเนื้อทุเรียนที่นุ่ม ชุ่ม เปียก หวานและมันเต็มที่ !
ทุเรียน มีหลายสายพันธ์
ทุเรียน ถือเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว บางคนชอบมาก บางคนถึงกับไม่ชอบกลิ่นเลยก็มี ทุเรียน มีมากกว่า 30 ชนิด แต่มีเพียงแค่ 9 ชนิดที่เราสามารถรับประทานได้ เช่น Durio Zibethinus, Durio Dulcis, Durio Grandiflorus, Durio Graveolens, Dio Kutejensis, Durio Lowianus, Durio Macratha, Durio Oxyleyanus, Durio Testudinarum โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สายพันธ์ที่ได้รับความนิยมและปลูกกันมากที่สุดคือ พันธ์หมอนทอง ชะนี กระดุมทอง และพันธ์ก้านยาว เป็นต้น
ประโยชน์ของทุเรียน
เส้นใยทุเรียน มีส่วนช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกยิ่งขึ้น ทุเรียน ช่วยต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะพันธ์ไทย หมอนทอง) ทุเรียน ช่วยต้านโรคหัวใจ รากทุเรียน ช่วยแก้โรคดีซ่าน เปลือกทุเรียน สามารถช่วยในการสมานแผลได้ ผลทุเรียน สามารถนำมาแปรรูปทำเป็นขนมหวานได้หลายชนิด เช่น ขนมไหว้พระจันทร์ ขนมปังสอดไส้ ไอศกรีม
โทษของทุเรียน
ด้วยความที่ทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นพันธ์ใด ๆ ถือเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง และยังอุดมไปด้วยไขมัน และกำมะถัน จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดัน เพราะหากทานเข้าไปอาจทำให้ระดับน้ำตาล และความดันเลือดสูงขึ้น ทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ทานทุเรียน เยอะเกินไป อาจทำให้ร้อนในได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
EP. 210 : กินทุเรียนอย่างไร ไม่ให้อ้วน และเบาหวานไม่พุ่ง
3 สิ่งต้องรู้ ห้ามกินทุเรียนกับอะไร ทุเรียนไม่ควรกินกับอะไร