สัญญาณตับเสื่อม ที่อาจจะบ่งบอกสัญญานสุขภาพใก้ลพังที่คุณต้องรู้ เพราะอวัยวะ “ตับ” ตั้งอยู่บนด้านขวาของหน้าท้องเรา ซึ่งถูกคลุมด้วยซี่โครงเรา ตับถือเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกายมนุษย์ หน้าที่หลักของตับคือช่วยกำจัดสารพิษที่เป็นอันตรายออกไปจากร่างกาย ถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ระบบของร่างกายเสียหาย มันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรจะรู้ถึงสัญญาณเริ่มของตับว่าเกิดปัญหาร้ายแรง
ในขณะที่ตับมีความเสี่ยงกับโรคต่างๆ มากกว่า 100 ชนิด อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้มีผลต่อตับในลักษณะที่คล้ายกันในช่วงเริ่มต้น โรคต่างๆที่เกี่ยวข้องกับตับ ประกอบด้วย :-
อาการร้าย สัญญาณตับเสื่อม วิกฤติอันตรายใกล้พัง
- โรคตับอักเสบ
โรคตับอักเสบรุนแรง แบบเฉียบพลัน คือโรคที่มีการอักเสบของตับ ทำให้เซลล์ตับจำนวนมากตายลงอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้ตับวาย และไม่สามารถทำงานได้อย่างปกติ ส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ให้ทำงานผิดปกติด้วย สาเหตุเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ไวรัส ยารักษาโรค สารพิษ ขาดออกซิเจน หรือการติดเชื้ออื่น ๆ เป็นต้น โดยโรคตับ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุของโรคมะเร็งตับ เพราะถ้าตับอักเสษแบบเรื้อรัง หรือเฉียบพลัน ก็อาจทำให้กลายเป็นมะเร็งได้
- โรคตับแข็ง
โรคตับแข็ง เป็นภาวะที่เกิดขึ้นของโรคตับ ซึ่งเกิดจากการที่ตับได้รับความเสียหาย และเกิดแผลเป็นอย่างถาวร มีลักษณะเฉพาะคือ มีเนื้อเยื่อพังผืดเกิดขึ้นในเนื้อตับ ส่งผลให้การทำงานของตับลดลง ไม่ว่าจะเป็นการผลิตโปรตีน การเก็บสะสมสำคัญและแร่ธาตุต่าง ๆ การทำงานสารพิษ รวมทั้งการปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดที่ไหลผ่านตับด้วย
- โรคไขมันในตับ
โรคไขมันพอกตับ (Fatty Liver Disease) เป็นกลุ่มของโรคที่เกิดจากการสะสมไขมันในตับ และเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด ที่ทำให้ผลการตรวจการทำงานของตับผิดปกติ โรคนี้ มักไม่ทำให้เกิดการเจ็บปวด แต่บางครั้ง จะบ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพด้านอื่น ๆ
- โรคตับจากแอลกอฮอล์
โรคตับจากแอลกอฮอล์ มีสาเหตุมาจากการดื่มแอลกอฮอล์จำนวนมาก การเสียหายของตับ ที่เกิดจากแอลกอฮอล์ไม่ได้เกิดขึ้นทันที แต่ค่อย ๆ เกิดขึ้น ที่สังเกต คือ โรคตับที่เกิดจากแอลกอฮอล์ มักมีอาการทรุดหนักอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีอาการเตือนมาก่อนเลย
ที่นี้ เมื่อเราทราบถึงชนิดของโรคตับแล้ว แอดมิน จะพามาดู อาการเริ่มต้นของโรคตับ มีอะไรบ้าง :-
สัญญาณตับเสื่อม สังเกตอย่างไร?
1.ปวดท้องบ่อย
เมื่อคุณเกิดอาการปวดท้องอยู่บ่อยๆ และมีอาการคลื่นไส้ ในบางครั้งมีการอาเจียนร่วมด้วย เราควรออกไปตรวจร่างกายทันที เพราะอาการคลื่นไส้เป็นผลมาจากการสะสมสารพิษในร่างกายและยากที่จะกำจัดมันออกไป
2.เบื่ออาหาร
ตับผลิตน้ำดีที่ช่วยในการย่อยอาหาร เมื่อตับเราเริ่มผิดปกติ การผลิตน้ำดีจะลดลง และการเผาผลาญอาหารก็จะลดลงด้วย ดังนั้นเราจะรู้สึกอิ่มอยู่ตลอดเวลาและทำให้ไม่อยากอาหาร
3.ร่างกายรู้สึกเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า และอ่อนเพลีย
เมื่อมีการสะสมสารพิษมากเกินไปในร่างกาย เราจะรู้สึกเหนื่อยบ่อยขึ้นแม้หลังจากที่ได้พักผ่อนเต็มที่แล้ว เป็นเพราะสารพิษที่ตับได้รับอากาศมันจะแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดและมีผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกายเช่น สมอง กล้ามเนื้อหัวใจ เนื้อเยื่อ และอวัยวะส่วนอื่นๆ
4.มีปัญหาในการย่อยอาหาร
ดังที่กล่าวไปแล้วว่า ตับผลิตน้ำดีที่ช่วยย่อยอาหารเมื่อมันอ่อนแอการผลิตน้ำดีก็จะลดลงและเป็นผลให้อาหารที่เราทานเข้าไปไม่ถูกย่อยอย่างสมบรูณ์นำไปสู่ปัญหาท้องผูก
5.การเปลี่ยนแปลงในสีอุจจาระ
น้ำดีที่ผลิตโดยตับจะช่วยให้อุจจาระของเราเป็นสีน้ำตาลเข้ม เมื่อมีปัญหาเกี่ยวกับตับ จะทำให้ตับผลิตน้ำดีน้อยลง จะทำให้อุจจาระเหนียวและมีสีเทา สีซีด และสีเหลือง
6.การเปลี่ยนแปลงในสีของปัสสาวะ
เมื่อมีสีปัสสาวะที่เปลี่ยนไป แม้ว่าจะดื่มน้ำอย่างเพียงพอแล้วก็ตามมันอาจบ่งชี้ถึงปัญหาของตับ เช่น ระดับบิลิรูบินในกระแสเลือด ซึ่งไตได้ผลิตออกมาจากนั้นตับจึงต้องขจัดออกไป
ปัสสาวะสีเข้มยังอาจเป็นสัญญาณของการใช้ยาปฏิชีวนะ การคายน้ำหรือการใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินบี ควรไปพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง
7.มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคดีซ่าน
เมื่อบิลิรูบินอยู่ในกระแสเลือดเพิ่มมากขึ้น เป็นผลมาจากการทำงานที่ล้มเหลวของตับที่ไม่สามารถกำจัดมันออกไป จึงมีแนวโน้มที่จะตัวเหลืองซึ่งมักจะเกิดขึ้นที่ผิว ปลายนิ้ว ตา และลิ้น
8.การกักเก็บของเหลว
เมื่อตับเริ่มมีปัญหา มันจะกักเก็บของเหลว เท้าและข้อเท้า จะขยายบวม เราควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง
9.การเปลี่ยนแปลงในช่องท้อง
เมื่อตับมีปัญหาจะมีภาวะเกิดน้ำในช่องท้อง นี้เป็นอาการเริ่มต้นของความเสียหายในตับที่มีการสะสมของของเหลวในช่องท้อง จะทำให้ท้องป่อง
10.การระคายเคืองผิวเรื้อรัง
ผิวจะไวต่อสิ่งกระตุ้นเมื่อถูกสัมผัส และมีแนวโน้มที่จะเกิดสะเก็ดและอาการคัน รวมทั้งจะมองเห็นเส้นเลือดดำได้อย่างชัดเจน เมื่อตับของคุณมีปัญหา
11.โรคท้องร่วงและมีเลือดออกในลำไส้
เมื่อตับมีปัญหาจะมีอาการท้องผูกบ่อยขึ้น และจะมีอาการท้องเสียร่วมอยู่ด้วยหรือแม้กระทั่งมีเลือดออกในลำไส้ หากพบอาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์ทันที
12.เป็นตะคริวบ่อยและมีอาการปวดท้อง
จะรู้สึกเจ็บปวดบริเวณท้องด้านขวาบน เมื่อตับมีปัญหาตับ เพราะบริเวณนี้จะไวต่อการสัมผัส เมื่อพบอาการต่างๆ เหล่านี้อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ทันที
อ้างอิง : timefornaturalhealthcare.com
บทความที่น่าสนใจ
ภาวะ ไขมันพอกตับ ภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพที่หลายคนไม่รู้