การดื่มกาแฟทุกวันในตอนเช้าหรือตอนบ่าย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับใครหลาย ๆ คนและได้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่ง และมีคนส่วนหนึ่งที่มีอาการติดคาเฟอีนจนขาดไม่ได้ และบางคนก็ดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไปในแต่ละวันจนร่างกายเริ่มออกอาการบางอย่างเพื่อส่งสัญญาณให้เราได้รู้ว่า “พอได้แล้ว” แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลัง ติดกาแฟ อาการเป็นอย่างไร กินกาแฟมากเกินไป มีผลข้างเคียงอย่างไร แล้วต้องกินเท่าไหร่ถึงจะพอดี ไม่สร้างผลข้างเคียงต่อร่างกาย
คนติดกาแฟ มีอาการอย่างไร
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าติดคาเฟอีนอยู่? หากเป็นคนที่ดื่มกาแฟเป็นประจำทุกวัน หรือดื่มกาแฟปริมาณเยอะในแต่ละวัน หลายคนอาจคิดว่าการดื่มกาแฟทุกวันนี้เป็นแค่กิจวัตรอย่างหนึ่ง แต่ถ้าขาดการดื่มกาแฟไปไม่ถึงวันแล้วมีอาการเหล่านี้ ก็เข้าข่ายกำลังติดคาเฟอีนอยู่ เช่น ปวดหัว เหนื่อยล้า วิตกกังวล ไม่มีสมาธิ มีอารมณ์ซึมเศร้า หงุดหงิดและมีอาการสั่นของร่ายกาย
- ปวดหัว หากถามว่าอาการปวดหัวบ่อยเกิดจากอะไร? เป็นอาการหนึ่งที่พบบ่อยในคนที่ขาดกาแฟหรือกำลังเลิกกาแฟ ซึ่งอาการปวดหัว มีระดับตั้งแต่ปวดเบา ๆ หน่วง ๆ ไปจนถึงปวดมาก เนื่องจากการดื่มคาเฟอีน จะทำให้หลอดเลือดเล็กลง การลดหรือการขาดคาเฟอีนจะทำให้หลอดเลือดขยายขึ้นและทำให้เพิ่มการไหลเวียนของเลือดเข้าสู่สมอง การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ ทำให้เกิดอาการปวดหัวจากการถอนคาเฟอีน อาการปวดหัวอาจอยู่นานหลายวันจนกว่าร่างกายจะปรับตัว อย่างไรก็ตาม ทฤษฎีนี้ยังต้องได้รับการศึกษาเพิ่มเติม
- เหนื่อยล้า จากกาแฟที่มีส่วนช่วยในการตื่นตัวและลดความเหนื่อยล้าที่เกิดจากสารสื่อประสาทที่ทำให้เรารู้สึกง่วงนอน การขาดคาเฟอีนเลยอาจทำให้เรารู้สึกตื่นตัวน้อยลง และเหนื่อยล้ามากขึ้น ทำให้พลังงานในแต่ละวันมีน้อย ทำงานหรือกิจวัตรต่าง ๆ ได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- วิตกกังวล คาเฟอีน สามารถเข้าไปเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและความดันโลหิต ซึ่งการดื่มกาแฟก็สามารถทำให้รู้สึกวิตกกังวลได้ แต่ถ้าขาดคาเฟอีน ก็อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวลได้เช่นกัน ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยสำหรับคนที่กำลังเลิกคาเฟอีน
- ไม่มีสมาธิ เหตุผลหนึ่งที่คนดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน คือเรื่องของสมาธิ เพื่อให้ร่างกายโฟกัสกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตได้ดียิ่งขึ้น เพราะคาเฟอีนจะเข้าไปเพิ่มระดับอดรีนาลีน โดปามีนและนอร์เอพิเนฟริน ที่ทำให้ร่างกายมีอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิตและการทำงานของสมอง ทำให้ตื่นตัวและโฟกัสได้ดีขึ้น การขาดคาเฟอีนอาจทำให้เกิดอาการขาดสมาธิ เนื่องจากร่างกายเริ่มต้องการคาเฟอีนเพื่อให้สามารถโฟกัสและตื่นตัว
- อารมณ์ซึมเศร้า คาเฟอีนมักทำให้อารมณ์ดีขึ้น เนื่องจากการตื่นตัวจากคาเฟอีน จะทำให้อารมณ์ดีขึ้นด้วยเช่นกัน การขาดคาเฟอีนไป ก็อาจทำให้อารมณ์เปลี่ยนและแปรปรวนจนเริ่มรู้สึกซึมเศร้าหรืออาจมีปัญหาโรคซึมเศร้าแทรกซ้อนเข้ามาด้วยเช่นกัน
- หงุดหงิด เนื่องจากการดื่มกาแฟเป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งในตอนเช้าหรือตอนบ่าย การขาดคาเฟอีนหรือการดื่มกาแฟ อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิดจากการขาดอะไรสักอย่างไปในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่อาจทำให้อารมณ์แปรปรวนได้
- อาการสั่น เป็นอาการอย่างหนึ่งที่ไม่ได้พบเจอบ่อย แต่อาจเกิดขึ้นสำหรับคนที่ดื่มกาแฟปริมาณมากในต้องพึ่งพาคาเฟอีนปริมาณสูงในแต่ละวัน
- นอกจากนี้ ดื่มกาแฟในปริมาณมากหรือการดื่มคาเฟอีนที่มากเกินไป ก็เป็นอาการหนึ่งของคนติดคาเฟอีนเช่นกัน เพราะร่างกายที่เริ่มรับคาเฟอีนจนรู้สึกชินจนต้องดื่มในปริมาณมากจนเริ่มดื้อคาเฟอีน ซึ่งส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าสร้างประโยชน์
ติดกาแฟหรือกินกาแฟมากเกินไป มีผลข้างเคียงอย่างไร?
การดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ดื่มเท่าไหร่ถึงจะมากเกินไป?
ปริมาณคาเฟอีนที่รับได้ อาจขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนักและสุขภาพโดยรวมของแต่ละคน แต่ปริมาณมาตรฐานคาเฟอีนที่เราควรจะได้รับในแต่ละวัน ไม่ควรเกิน 400 มิลลิกรัมต่อวัน หากดื่มคาเฟอีนเกิน 400 มิลลิกรัม อาจเกินอาการเหล่านี้ได้
- มีปัญหาการนอนหลับ การดื่มกาแฟมากเกินไปหรือดื่มกาแฟหลังเวลา 14:00 น. อาจทำให้เกิดปัญหาการหลับนอนได้ ซึ่งทำให้นอนได้น้อยลงหรือหลับนอนได้ยากขึ้น และอาจทำให้เป็นโรคนอนไม่หลับได้
- หัวใจเต้นเร็วขึ้น ความดันเลือดสูงขึ้น คาเฟอีนมีผลกับหัวใจหลายอย่าง กาแฟ 4 ถ้วยก็อาจทำให้การเต้นของหัวใจเร็วขึ้น รวมถึงความดันเลือด ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้นสำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพหัวใจ
- ปัสสาวะบ่อย คาเฟอีนเป็นเหมือนยาขับปัสสาวะ ซึ่งเป็นสารที่เพิ่มการผลิตปัสสาวะ ทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยยิ่งขึ้น อาจนำไปสู่ภาวะร่างกายขาดน้ำได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุทีการดื่มกาแฟปริมาณมากก็อาจทำให้ปัสสาวะบ่อยตอนกลางคืนได้ด้วยเช่นกัน
- กระวนกระวาย กระสับกระส่าย ปริมาณคาเฟอีนที่มากเกินไป อาจทำให้รู้สึกกระวนกระวาย กังวล และกระสับกระส่ายได้
- อาจเกิดปัญหาทางเดินอาหารได้ คาเฟอีน สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสีย กรดไหลย้อน หรืออาการไม่สบายทางเดินอาหารอื่น ๆ ได้ จากการดื่มคาเฟอีนที่มากเกินไป
- ปวดหัว การดื่มคาเฟอีนในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน อาจแก้อาการปวดหัวได้สำหรับบางคน แต่การดื่มคาเฟอีนในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ปวดหัวได้เช่นเดียวกับอาการถอนคาเฟอีน
- วิตกกังวล ปริมาณคาเฟอีนที่มากเกินไปในร่างกาย อาจทำให้เกิดอาการวิตกกังวลหรือกังวลใจได้มากขึ้น
- ติดคาเฟอีนและต้องพึ่งพาคาเฟอีนมากขึ้น การดื่มคาเฟอีนปริมาณมากเกินไปเป็นประจำ สามารถทำให้ติดคาเฟอีนมากขึ้น เนื่องจากร่างกายเริ่มปรับตัวให้ชินกับปริมาณคาเฟอีน ทำให้อาการถอนคาเฟอีนอาจรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ติดกาแฟ แก้ยังไง?
การดื่มกาแฟในปริมาณไม่เกิน 400 มิลลิกรัมในแต่ละวัน เป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ การแก้อาการติดคาเฟอีน อาจแก้ด้วยวิธีการดังนี้
- กำหนดปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวัน วันละไม่เกิน 400 มิลลิกรัม
- ดื่มน้ำให้มากขึ้น แก้ปัญหาอาการขาดน้ำจากการถอนคาเฟอีน
- งดดื่มกาแฟหลังเวลา 14:00 น. เป็นต้นไป
- เปลี่ยนไปดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนน้อยกว่ากาแฟที่ดื่มเป็นประจำ
- ดื่มกาแฟ Decaf หรือกาแฟที่มีคาเฟอีนน้อยมาก แทนการดื่มกาแฟที่มีคาเฟอีนสูง
- นอนหลับให้เพียงพอ และจัดการกับความเครียดด้วยวิธีอื่นนอกจากการดื่มคาเฟอีน
อ่านบทความเพิ่มเติม :
กินชาเขียวทุกวัน อันตรายไหม มีประโยชน์อย่างไรต่อร่างกายบ้าง
ชาเจียวกู่หลาน สรรพคุณจากสมุนไพรจีน ดีต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
แนะนำ 5 คุณประโยชน์จากการดื่มนมถั่วเหลืองประโยชน์ดีๆจากธรรมชาติ มีอะไรบ้าง