เห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ ดีอย่างไรต่อสุขภาพ
เห็ดชิตาเกะ หรือภาษาบ้านเราที่เรียกกันง่าย ๆ คือ “เห็ดหอม” ซึ่งเห็ดชิตาเกะนี้ เป็นเห็ดที่ผู้คนชาวเอเชียอย่างเรานิยมทานเป็นอย่างมาก สังเกตได้จากเมนูอาหารโซนเอเชียที่ใช้เห็ดหอมเป็นวัตถุดิบอย่างหนึ่งในหลากหลายเมนู และเห็ดหอมนี้ก็สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป สามารถนำไปปรุงได้หลากหลายและทำให้เมนูอาหารมีรสชาติออกมาดีเช่นซุปมิโซะ และอีกหลากหลายเมนูอาหาร แต่นอกจากความอร่อยแล้ว เห็ดชิตาเกะ สรรพคุณของมันก็มีมากมาย ซึ่งดีต่อร่างกายด้วยเช่นกัน
คุณค่าทางโภชนาการของเห็ดชิตาเกะ
เห็ดชิตาเกะนั้นมีปริมาณแคลอรี่ต่ำ มีไฟเบอร์ รวมถึงวิตามินบี และอุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย ในเห็ดชิตาเกะปริมาณ 145 กรัม จะมีคุณค่าทางโภชนาการดังนี้
– แคลอรี่ : 81
– ไขมัน : 0.3 กรัม
– ปริมาณโซเดียม : 5.8 มิลลิกรัม
– ไฟเบอร์ : 3 กรัม
– น้ำตาล : 5.6 กรัม
– โปรตีน : 2.3 กรัม
– วิตามินดี : 1 ไมโครกรัม
– ซิงค์ : 2 มิลลิกรัม
ไขมันที่ต่ำจนแทบไม่มี ทำให้เห็ดชิตาเกะเป็นวัตถุดิบที่ดีต่อการลดน้ำหนัก และเป็นเห็ดลดน้ำหนักที่เหมาะกับการไดเอทมาก นอกจากนี้ก็ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอย่าง วิตามินดี ซิงค์ แมงกานีส วิตามินบี 6 ไทอามิน ไนอาซิน ไรโบฟลาวิน โฟเลท โพแทสเซียม แมกนีเซียม ธาตุเหล็ก และฟอสฟอรัส รวมถึงปริมาณโซเดียมก็ต่ำด้วยเช่นเดียวกัน
ประโยชน์ที่ได้รับจากเห็ดชิตาเกะ
การรับประทานเห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ นอกจากความอร่อยแล้ว ยังดีต่อร่างกาย ด้วยสรรพคุณที่ช่วยในเรื่องของระบบหัวใจและหลอดเลือด เสริมภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น อาจช่วยทำลายเซลล์มะเร็ง เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยระบบย่อยอาหาร ช่วยต่อต้านโรคอ้วน และให้พลังงานสมอง
ช่วยในเรื่องของระบบหัวใจและหลอดเลือด
ในเห็ดชิตาเกะมีสารสเตอรอล ที่มีส่วนช่วยในการยับยั้งการดูดซับคอเลสเตอรอลในร่างกาย รวมถึงไฟโตนิวเทรียนท์ (Phytonutrients)ที่ช่วยให้เซลล์ในหลอดเลือดไม่ติดผนังหลอดเลือดและไม่จับกลุ่มกันเป็นก้อน ซึ่งทำให้ระบบภายในหลอดเลือดทำงานได้อย่างเต็มที่ ความดันโลหิตดีขึ้น มีอิริตาเดนีน (Eritadenine) ที่ช่วยให้ไตสามารถย่อยคอเลสเตอรอลได้ดียิ่งขึ้น รวมถึง เบต้า กลูแคน (Beta glucans) ไฟเบอร์ที่สามารถช่วยลดยับยั้งการดูดซับคอเลสเตอรอลภายในร่างกายที่มากเกินไป
เสริมภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้น
การทานเห็ดชิตาเกะ จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้นเช่นเดียวกับเห็ดหลินจือ เพราะในเห็ดชิตาเกะจะมีจะมีพอลิแซ็กคาไรต์ (Polysaccharide) เช่น เลนทิแนน (Lentinan) และเบต้ากลูแคน (Beta glucans) ที่ช่วยในเรื่องของการป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลาย เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น รวมถึงคอปเปอร์ (Copper) ที่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยสนับสนุนเซลล์ต้านทานต่าง ๆ ภายในร่างกาย
อาจช่วยทำลายเซลล์มะเร็ง
เนื่องจากเห็ดชิตาเกะมีพอลิแซ็กคาไรต์อย่างเลนทิแนน ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง รักษาเซลล์โครโมโซมที่เกิดจากการรักษาการต้านมะเร็ง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต้านมะเร็งให้ดียิ่งขึ้น ในประเทศจีนและญี่ปุ่น ได้มีการฉีดเลนทิแนนเข้าร่างกายเคียงข้างกับการทำคีโมและการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อทำให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้นในผู้ป่วยโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร กล่าวโดยสรุปคือเลนทิแนนภายในเห็ดชิตาเกะ อาจมีส่วนช่วยในการต่อสู้กับโรคมะเร็งได้
เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
เห็ดชิตาเกะ เป็นเห็ดที่มีวิตามินดีสูง ยิ่งเห็ดชิตาเกะที่โตโดยได้รับแสง UV เยอะ ก็ยิ่งทำให้เห็ดชิตาเกะมีวิตามินดีสูงขึ้น และเป็นเห็ดชนิดเดียวที่ให้วิตามินดี ร่างกายต้องการวิตามินดีเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซับและเผาผลาญแคลเซียมกับฟอสฟอรัส เพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งหาอาหารที่ให้วิตามินดีได้ยาก นอกจากนี้ วิตามินดี อาจมีส่วนช่วยในเรื่องของการลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคแพ้ภูมิตัวเอง และโรคมะเร็งได้ด้วยเช่นกัน
มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
ไฟเบอร์ที่อยู่ในเห็ดชิตาเกะ ก็อาจมีส่วนช่วยในเรื่องของสุขภาพในกระเพาะอาหาร ซึ่งไฟเบอร์ที่อยู่ในเห็ดชิตาเกะ มีคุณสมบัติในการซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกทำลาย ซึ่งสามารถเข้าไปซ่อมแซมแผลในกระเพาะอาหารได้ ทำให้สุขภาพกระเพาะอาหารดีขึ้น
ช่วยต่อต้านโรคอ้วนได้
เนื่องจากในเห็ดชิตาเกะ จะมี Soluble fiber หรือใยอาหารที่สามารถละลายน้ำได้ เช่นเดียวกับบาร์เลย์ โอ๊ต ข้าวไรย์ และเส้นโซบะ ซึ่งมีส่วนช่วยที่ทำให้ลดปริมาณการดูดซึมคอเลสเตอรอลลง และลดปริมาณไขมันในพลาสมา ทำให้เห็ดชิตาเกะเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยในการลดความอ้วนหรือป้องกันโรคอ้วนได้ นอกจากนี้ เห็ดชิตาเกะก็มีปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำ รวมถึงไขมันและปริมาณโซเดียมด้วยเช่นเดียวกัน
ให้พลังงานร่างกายและสมอง
วิตามินบีที่อุดมอยู่ในเห็ดชิตาเกะ ก็มีส่วนช่วยในการทำงานของต่อมหมวกไต เปลี่ยนแปลงสารอาหารให้เป็นพลังงานที่ใช้ในแต่ละวัน ทำให้สมองมีพลังงานมากขึ้น โฟกัสกับกิจกรรมต่าง ๆ ในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้น
ข้อควรระวังในการกินเห็ดชิตาเกะหรือเห็ดหอม
ในเห็ดชิตาเกะจะมีปริมาณพิวรีน (Purines) ในระดับหนึ่ง ซึ่งพิวรีนจะเปลี่ยนเป็นกรดยูริค ซึ่งอาหารที่มีกรดยูริคสูง จะมีผลอย่างมากกับโรคเกาต์ หากเป็นผู้ป่วยโรคเกาต์ ควรกำหนดปริมาณพิวรีนที่ได้รับในแต่ละวันอย่างเคร่งครัด เพื่อเลี่ยงปัญหาโรคเกาต์ให้ได้มากที่สุด
อ่านบทความเพิ่มเติม :
เส้นโซบะ ประโยชน์มากมายที่มากกว่าความอร่อย