เมื่อสัปดาห์ก่อน ดิฉันได้มีโอกาสไปทริปดูงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา แวะเมืองลาสเวกัส อริโซน่า ซานฟรานซิสโก และแน่นอนต้องแว๊บผ่านรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรัฐที่ 6 ที่ทางสหรัฐฯ อนุญาตให้ขายปลีกกัญชาเพื่อสันทนาการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 ที่ผ่านมา หลังจากที่อนุญาตให้สามารถใช้กัญชาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ได้ เมื่อมากกว่า 20 ปีที่แล้ว ตามที่ดิฉันติดตามข่าวมาโดยตลอด จากสื่อต่างประเทศ อย่างในสหรัฐฯ นายเจฟฟ์ เซสซันส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็ออกมาระบุเมื่อต้นเดือนมกราคม 2562 นี่เองว่า เขาจะพยายามหยุดยั้งประกาศที่ออกมาในสมัยของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่ให้รัฐต่าง ๆ อย่างไรก็ดี ทำให้การใช้กัญชาเป็นเรื่องถูกกฎหมาย และขยายตัวสูงขึ้นมากในสหรัฐ ฯ
อย่างไรก็ตาม ทางรัฐแคลิฟอร์เนีย อนุญาตให้จำหน่ายกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แก่ผู้มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมคมที่ผ่านมานี่เอง โดยอนุญาตให้สามารถครอบครองกัญชาในปริมาณสูงสุด 1 ออนซ์ (28 กรัม) และสามารถปลูกกัญชาไว้ที่บ้านได้มากที่สุดถึง 6 ต้น ซึ่งถือว่าไม่น้อยสำหรับบุคคลธรรมดาทั่วไป และแน่นอน ในทริปนี้ ดิฉัน ได้มีโอกาสแวะเข้าไปดูลาดเลาร้านจำหน่ายกัญชาแบบเสรี (ยังแอบเสียดายว่า น่าจะซื้อติดมือมาบ้าง) ซึ่งถือเป็นร้านที่ตกแต่งง่าย ๆ เรียบ หรู ดูสะอาดตา มีกัญชาหลากหลายชนิด หลากหลายกลิ่น (ที่ชอบ) และมีจำหน่ายในรูปแบบช๊อคโคแลต ลูกอม แบบดรอปหยดบนลิ้น แต่เราต้องสังเกตค่า THC และ CBD ในกัญชาแต่ละแบบมีความเข้มข้นเท่าไร ผู้อ่านอาจจะ งง เหมือนดิฉันตอนแรก ว่า มันคืออะไร ? เรามาทำความเข้าใจกันค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง THC และ CBD
วันก่อน ได้มีโอกาสเข้าร่วมฟังสัมมนาในหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง หลักสูตรหนึ่ง ซึ่งในสัปดาห์นั้น ท่าน ผศ.นพ. เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ได้รับเชิญมาพูดในหัวข้อ “Health Trend for Executive” และมีหลายท่านผู้ร่วมสัมมนา สงสัยเกี่ยวกับเรื่อง CBD ในกัญชา ท่านอธิบายได้เห็นภาพและเข้าใจง่าย ๆ ว่า หลายคนเข้าใจว่า กัญชา ทำให้ผ่อนคลาย ได้ยินมาแบบนั้น มาอย่างช้านาน แต่ทราบหรือไหมว่า สารที่ทำให้ผ่อนคลายนั้น มีชื่อเรียกว่า THC ซึ่งมีผลในระบบประสาท และสารอีกตัวที่ชื่อว่า CBD นั้น ช่วยทำให้ผ่อนคลายเหมือนกัน และพอศึกษาลึกเข้าไปอีก จะทราบว่า CBD ถ้าเพิ่มโดสมากขึ้น สารตัวนี้ไม่มีผลข้างเคียงต่อระบบร่างกายมนุษย์ แต่เจ้าตัว THC จะมีผลข้างเคียง คือ จะมีอาการปากแห้ง มึน หัวใจเต้นเร็ว กระหายน้ำ อาการเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่ได้รับ THC ที่มากเกินไป จริง ๆ แล้วในกัญชา จะมีสาร THC อยู่มากถึง 12% และมีสาร CBD อยู่ค่อนข้างน้อยมากเพียง 0.30% เท่าเอง ดังนั้นเพื่อการรักษาโรคที่ CBD ทำได้นั้น ล้วนแล้วยังทำให้ร่างกายได้รับสาร THC มากเกินไป และถูกต้อง การใช้ CBD อย่างให้มีประสิทธิภาพ จึงจำต้องผ่านกระบวนการสกัดออกมาก่อน
กัญชา กับ มะเร็ง
ทีนี้ กัญชา จะมาช่วยรักษามะเร็งได้อย่างไร ดิฉัน ขออนุญาตไม่ลงลึกไปในรายละเอียด เพราะถึงแม้ในต่างประเทศอย่างสหรัฐ ฯ ก็ยังอยู่ในช่วงพัฒนาสารสกัดดังกล่าวออกมา เพื่อใช้ในทางการแพทย์โดยเฉพาะ แต่หากในอนาคตมีการผ่านกฏหมายในบ้านเรา เพื่อให้ใช้ “กัญชา” ในการ “การแพทย์” เชื่อว่าแน่นอนต้องมีการศึกษาวิจัย อย่างละเอียดมากขึ้น และถือเป็นความโชคดีของผู้ป่วยที่ประสบปัญหาในหลาย ๆ โรคด้วยเช่นกัน
เรามาดูกันว่า สัญญาณเตือน หรือ อาการเตือนของโรคมะเร็ง ในรูปแบบต่าง ๆ มีอะไรบ้าง เผื่อเราเองจะได้รีบปรึกษาแพทย์ทันท่วงที :-
1.มะเร็งเต้านม
อาการคัน แดง เจ็บบริเวณเต้านม คลำพบก้อนบริเวณเต้านม อย่างเพิ่งตกใจ เพราะก้อนเนื้อนั้น อาจไม่ใช่เนื้อร้าย แนะนำรีบปรึกษาแพทย์ก่อน
2.มะเร็งปากมดลูก
จะมีเลือดออกระหว่างรอบของประจำเดือน มีตกขาวผิดปกติ ปวดประจำเดือนมากกว่าปกติ หรือมีมากกว่าปกติ ต้องสังเกตอย่างละเอียด
3.มะเร็งตับอ่อน
ถือเป็นมะเร็งที่อันตรายที่สุด เพราะไม่แสดงอาการจนกระทั่งเข้าสู่ระยะสุดท้ายของโรค และเมื่อมีอาการจะพบผิวหนังเป็นสีเหลืองอ่อน และมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
วันนี้ขออนุญาตยกตัวอย่างมาเพียง 3 อาการที่พบบ่อย และคนไทยเป็นกันมากที่สุด หากมีประวัติครอบครัวเป็นโรคมะเร็ง อาจจะต้องเพิ่มการระมัดระวังปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ เพิ่มการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น และอย่าลืมเช็คสุขภาพร่างกายประจำปีทุกปี อย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ
#KINN_Biopharma
#คินน์เพื่อชีวิตยืนยาวและยั่งยืน
(credit : billionaire mindset, www.healthline.com, www.leafscience.com/2017/11/22/thc-cbd-difference/
www.leafscience.com/2017/11/22/thc-cbd-difference/
#KINN_Biopharma
บทความที่น่าสนใจ
จริงหรือไม่ กัญชารักษาได้ทุกโรค
กินผักผลไม้ยังไง ให้ดีต่อ (หัว) ใจ
ผู้หญิงวัยทอง อาการเข้าวัยทอง ควรเน้นอาหารแบบไหน ต้องเลี่ยงอะไร ?