ถือเป็นโรคยอดฮิตที่เป็นกันเยอะมากในบ้านเรา วันก่อนเจอเพื่อนสมัยเรียนมัธยมด้วยกันโดยบังเอิญ คุยกันสัปเพเหระ ลงท้ายมาคุยเรื่องสุขภาพ เธอบอกว่า เพิ่งไปตรวจสุขภาพมา หมอบอกว่าเธอเป็น “ไขมันพอกตับ” ดิฉันเลยถามต่อว่า เกิดได้อย่างไร เธอตอบด้วยเสียงฮาผสมกับเรื่องที่เธอเล่า คือ “ทานโต๊ะแชร์เยอะมาก แล้วไม่ค่อยได้ออกกำลังกายเลย เพราะเดินทางประชุมต่างประเทศบ่อย” จึงเป็นที่มาที่ไปที่อยากเก็บมาเขียน เพื่อเตือนเพื่อน ๆ กันค่ะ
ไขมันพอกตับ
ถือเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพอย่างมาก แต่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยตระหนัก ทั้งนี้เพราะไขมันพอกตับไม่ได้เป็นสาเหตุการตายโดยตรงแต่เป็นตัวเร่งการอักเสบเรื้อรังในร่างกาย เพิ่มอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ เบาหวาน และมะเร็ง
อะไรคือสาเหตุ?
อธิบายแบบเข้าใจง่าย ๆ สั้นๆก็คือมีปริมาณน้ำตาลส่วนเกินในร่างกาย จนตับนำไปสร้างเป็นไขมัน( lipogenesis) ในยุคนี้ไม่มีน้ำตาลไหนจะอันตรายไปกว่า high fructose corn syrup ที่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มนำมาใช้ปรุงแต่งผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มสำเร็จรูปทั้งหลายโดยเฉพาะน้ำอัดลม อันเป็นสาเหตุใหญ่ที่สุดที่นำไปสู่ภาวะไขมันพอกตับ
จะรู้ได้อย่างไรว่า เรากำลังเป็นไขมันพอกตับ ?
- มีวิธีการการตรวจเลือดเพื่อช่วยค้นหาภาวะนี้ได้
- ตรวจเช็คด้วยอุลตร้าซาวด์ซึ่งจะให้ผลการตรวจได้ดีกว่าการตรวจเลือด
ทำไมถึงต้องกลัวภาวะไขมันพอกตับ ?
- ก็เพราะเป็นตัวเร่งให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งนำไปสู่การดื้ออินซูลิน ภาวะก่อนเบาหวาน มีการสะสมไขมันตามพุง อวัยวะต่างๆ และ
- ตัวไขมันที่สะสมตามพุง ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้น ระดับไขมันดี (HDL)ลดลง แต่กลับเพิ่มไขมันเลวที่อันตรายเพิ่มมากขึ้น (Lpa) เพิ่มอัตราเสี่ยงโรคหัวใจ
ทำอย่างไรจึงจะปลอดภัยจากไขมันพอกตับ
- เลี่ยงการทานอาหารเครื่องดื่มที่มักผสม high fructose corn syrup ก่อนจะซื้อมาบริโภคไม่ว่าซอสมะเขือเทศ น้ำสลัด อ่านฉลากให้ดีว่ามีส่วนผสมด้วย น้ำตาลชนิดนี้หรือไม่ ผู้บริโภคจำนวนมากไม่เคยทราบมาก่อนว่าซอสมะเขือเทศบรรจุขวดมักมีปริมาณน้ำตาลมากกว่าคุ้กกี้ เมื่อเทียบตามปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภคเท่าๆกัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงน้ำอัดลม เครื่องดื่มบรรจขวดหรือบรรจุกระป๋องทั้งหลาย
- ลดแป้งขัดขาว ในมื้ออาหาร เพิ่มผักผลไม้สด ถั่ว ธัญพืชที่มีเมล็ดเช่นเมล็ดฟักทอง งา ทานเนื้อปลา ไก่
- ลงทุนกับน้ำมันปรุงอาหารเช่น น้ำมันมะกอก (olive oil), macadamia nut oil น้ำมันมะพร้าวทานไขมันที่มีคุณค่าเช่นอะโวคาโด เนยจากมะพร้าว น้ำมันปลา(fish oil) เพื่อช่วยซ่อมแซมเซลล์ตับ.
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มอัตราการเผาผลาญ อันเป็นการลดความเสี่ยงภาวะดื้ออินซูลิน และไขมันพอกตับ ไปในตัว
- สมุนไพรและสารเสริมอาหารบางชนิดก็ช่วยได้เช่น Milk Thistle. , Lipoic Acid, N-Acetyl-l-Cysteine. อันเนื่องจากผลเข้าไปเสริมให้ตับสร้างสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญมากในตับคือ
- ส่วนวิตามิน B vitamins และแมกนีเซี่ยม magnesiumจะช่วยสนับสนุนให้ตับเยียวยาซ่อมสร้างเซลล์ตับที่เสียหายได้ดีขึ้น
- ทานผักที่ช่วยล้างพิษ เร่งกำจัดพิษจากตับเช่น ผักตระกูลบร็อคเคอรี่ คะน้า กะหล่ำ กระเทียม หัวหอม , collards, Brussels sprouts, arugula, daikon radish
——
(อ้างอิง : นายแพทย์ Mark Hyman, MD, wellness2012)
#KINN_Biopharma