ในปัจจุบันจะเห็นว่าหลายคนหันมาให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพจนกลายเป็นเทรนด์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการดูแลตัวเองด้วยการดีท็อกซ์ ซึ่งมีสูตรต่าง ๆ บอกกันต่อ ๆ ว่าดีต่อร่างกายจริง ๆ แต่ใครจะเชื่อว่าการดีท็อกซ์ลำไส้หลาย ๆ สูตรตามโลกอินเทอร์เน็ตนั้นมีเรื่องผิดชนิดที่ไม่น่าให้อภัยผสมอยู่ด้วย วันนี้เราได้รวมความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับดีท็อกลำไส้มาฝากค่ะ ใครที่คิดจะทำตามหรือทำอยู่แล้ว ควรเลิกทำไปได้เลยค่ะ
ดีท็อก คืออะไร
การดีท็อก (Detox) เป็นการขจัดสารพิษและสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย โดยใช้ระยะเวลาสั้น ๆ โดยทั่วไปแล้วร่างกายจะขับสารพิษออกตามกลไกของธรรมชาติอยู่แล้วแต่บางครั้งสารพิษอาจสะสมและทำปฏิกิริยากับสารอื่น ๆ ในร่างกาย ก่อให้เกิดผลเสียระยะยาวต่อร่างกายได้ด้วยค่ะ ซึ่งการดีท็อกจะช่วยสร้างภูมิต้านทานของเราให้แข็งแรง มีภูมิคุ้มกันและป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น
5 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับดีท็อกซ์ลำไส้ ใครทำอยู่ เลิกทำเลย
1.ดีท็อกช่วยลดไขมัน
แม้จะมีสูตรตามโลกอินเทอร์เน็ตหลายสูตร เน้นการทำดีท็อกด้วยการขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย โดยเน้นไปที่การขับถ่ายอุจจาระเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้ตัวเบามากยิ่งขึ้น แต่ในความเป็นจริงนั้นการขับถ่ายอุจจาระจะมีเพียงอุจจาระและน้ำออกมาเท่านั้น เนื่องจากกลไกตามธรรมชาติสร้างมาไม่ให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินออกไปทางอุจจาระแม้แต่น้อย บางกรณีผู้ขับถ่ายอาจสูญเสียเกลือแร่และวิตามินจากการขับถ่ายจำนวนมากจากสูตรดังกล่าว และกลายเป็นปัญหาสุขภาพตามมาในระยะยาวอีกด้วย
ไขมันอุดตันเกิดจากอะไร ป้องกันง่าย ๆ ได้ด้วยตัวคุณเอง
2.เครื่องดื่มดีท็อกช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการดื่มเครื่องดื่มดีท็อกซ์ที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดหรือช่องทางออนไลน์จะช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายได้ตามคำโฆษณา ทั้งนี้เราขอแนะนำให้คุณปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนการทำดีท็อกทุกครั้ง นอกจากนี้ควรอ่านข้อมูลที่ระบุบนฉลากให้ครบถ้วน และที่สำคัญต้องดูด้วยว่ามี อย. กำกับหรือไม่ ทางที่ดีเราไม่แนะนำให้ซื้อหามารับประทานเองโดยเด็ดขาด
3.น้ำหมักช่วยขับของเสีย
ในความเป็นจริงนั้นน้ำหมักจากผักและผลไม้ไม่สามารถล้างสารพิษออกจากร่างกายได้เลย แถมยังเสี่ยงต่อการเพิ่มสารพิษตกค้างอีกด้วย หากคุณเลือกผักผลไม้ที่ผ่านการฉีดสารเคมีเป็นประจำ หรือล้างผักผลไม้ไม่สะอาด รวมถึงใช้ภาชนะและเลือกวิธีการหมักแบบไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงทำให้มีเชื้อโรคและแบคทีเรียปนเปื้อนเข้าสู่ร่างกายจนเป็นอันตราย ส่งผลเสียต่อระบบทางเดินอาหารในระยะยาวอีกด้วยค่ะ
4.ยาระบายใช้แทนการดีท็อกได้
ยาระบายมีฤทธิ์ช่วยดึงน้ำออกจากผนังลำไส้ ส่งผลให้เนื้ออุจจาระนิ่มและขับถ่ายออกง่ายกว่าการขับถ่ายอุจจาระตามธรรมชาติ แต่ยาระบายไม่สามารถชะล้างสารพิษที่สะสมตามผนังลำไส้ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการท้องผูกเรื้อรังควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาด้วยนะคะ
5.การสวนล้างลำไส้คือการดีท็อก
เนื่องจากร่างกายมนุษย์มีกลไกกำจัดสารพิษโดยมีอวัยวะสำคัญอย่างตับและไตคอยทำหน้าที่ขับของเสียออกอยู่แล้ว ดังนั้นการดีท็อกซ์ล้างลำไส้จึงไม่จำเป็นต่อร่างกายแต่อย่างใด ต่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปมีสารพิษปนเปื้อนแฝงอยู่ ร่างกายก็จะดูดซึมสารดังกล่าว รวมถึงสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ เพื่อส่งไปยังลำไส้เล็กพร้อมกับส่วนที่ตกค้างในลำไส้ใหญ่ จึงเหลือเพียงกากอาหารที่ไม่ถูกย่อยหรือดูดซึมแล้ว ดังนั้นการสวนลำไส้เองที่บ้านอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อและได้รับสิ่งปนเปื้อนผ่านอุปกรณ์ที่ใช้สวน นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทำดีท็อกอีกด้วยค่ะ ทางที่ดีอย่าสวนล้างลำไส้จะดีที่สุดค่ะ
แล้วเราควรทำอย่างไรให้ร่างกายขับเสียของเสียออก
จากที่กล่าวมาข้างต้นว่าการดีท็อกที่ดีควรเป็นไปตามกลไกของธรรมชาติ ซึ่งก็คือการรับประทานอาหารเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายนั่นเองค่ะ การเลือกทานอาหารที่อุดมไปด้วยโปรไบโอติกซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร ช่วยให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารง่ายขึ้น และช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยป้องกันลำไส้จากสารพิษและแบคทีเรียได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ผักบุ้ง กล้วย มะละกอ โยเกิร์ต ถั่วนัตโตะ เป็นต้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มะนาวโซดา รักษามะเร็งได้จริงหรือ? มีประโยชน์กับร่างกายจริงหรือเปล่า
6 เมนูอร่อยช่วย ล้างลำไส้ ช่วยให้ลำไส้สะอาด ดีต่อระบบขับถ่าย