ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง (Hyperglycemia) ถือเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดสูงกว่าปกติ ซึ่งระดับน้ำตาลที่ปกติ คือประมาณ 70 – 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร แต่หากค่าที่ได้สูงกว่า 100 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ปกติ โดยทั่วไปเราจะมีตรวจสุขภาพประจำปี หนึ่งในโปรแกรมที่หลายคนนิยมตรวจ คือ การตรวจหาน้ำตาลในเลือด เนื่องจากหากมีการตรวจพบว่าน้ำตาลในเลือดสูง นั่นหมายถึง ตับอ่อน มีการผลิตอินซูลินออกมาเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถนำน้ำตาลไปสู่เซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายได้ และผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง และไม่ได้รับการรักษา อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อน ส่งผลให้เส้นประสาท หลอดเลือด หรืออวัยวะต่าง ๆ ถูกทำลายจนมีปัญหาสุขภาพระยะยาวได้
สาเหตุอะไร ที่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงหล่ะ ?
โดยส่วนใหญ่ มักมาจากพฤติกรรมการทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง ซึ่งนอกจากจะหมายถึง น้ำหวาน ขนมหวาน ยาชูกำลัง และแอลกอฮอล์แล้ว ยังรวมถึง อาหารประเภทคาร์โบไฮเดรทในแป้ง นมข้นหวาน นมเปรี้ยว นมที่มีการปรุงรส ผักบางชนิดที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นส่วนประกอบ เช่น ข้าวขาว มัน เผือก ฯลฯ
สูตรน้ำขิงลดไขมันในเลือด ดื่มทุกวัน ลดความดัน มีสุขภาพดี
สัญญาณเตือน น้ำตาลในเลือดสูง
สำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำตาลในเลือดสูง อาจจะยังไม่มีอาการในช่วงแรก แต่จะเริ่มสังเกตได้ เมื่อร่างกายมีน้ำตาลสูงกว่า 200 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตรขึ้นไป ทั้งนี้ วิธีสังเกตอาการเบื้องต้น คือ อาการปวดศีรษะ เหนื่อยง่าย กระหายน้ำ การมองเห็นไม่ชัด ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะเวลากลางคืน โดยหากใครเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และมีอาการดังกล่าว แนะนำให้ทำการตรวจเลือด เพื่อหาระดับน้ำตาลในเลือดที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน ได้เช่นกัน
น้ำตาลในเลือดสูงบ่อย จะหายมั๊ย ?
อย่างที่กล่าวข้างต้น ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง เกิดจากความผิดปกติของตับอ่อน ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนอินซูลิน โดยเมื่อเรากินอาหารเข้าไป ร่างกายก็จะทำการย่อยแป้ง (คาร์โบไฮเดรต) เป็นน้ำตาลกลูโคส แล้วจึงดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด แต่หากตับอ่อนผิดปกติ ไม่สามารถที่จะสร้างอินซูลินได้ หรือ สร้างได้น้อย หรือตอบสนองอินซูลินลดลง ก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และเมื่อระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น เวลาเลือดเดินผ่านไต น้ำตาลส่วนหนึ่งก็จึงถูกขับออกทางไตผ่านปัสสาวะ จึงเรียกว่า เบาหวาน
ปัจจุบัน ตามหลักการแพทย์ตะวันตกอธิบายว่า ยังไม่มีวิธีการรักษาใด ๆ ที่ทำให้โรคเบาหวานหายขาดได้ 100% เพียงแต่ผู้ป่วยโรคเบาหวาน สามารถเข้าสู่ระยะสงบของโรคได้ (remission) คือ ไม่แสดงอาการ และมีค่าน้ำตาลในเลือดอยู่ในค่าปกติ และภาวะสงบนี้ อาจจะยาวนานได้เป็นเดือน ๆ เป็นปี หรือหลายสิบปี ก็ขึ้นอยู่แต่ละบุคคล
ถ้าปล่อยให้ น้ำตาลในเลือดสูง จะเกิดอะไรขึ้นกับร่างกาย ?
-
ความดันเลือดสูง
จากเบาหวานเป็นความดัน จากความดันเป็นโรคหัวใจ พบได้บ่อยมาก หลายคนเข้าใจว่าโรคเบาหวาน เป็นโรคที่ไม่ร้ายแรง แต่จริง ๆ แล้วกลับพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวาน มักเสียชีวิตเพราะโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ มากเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียว และเมื่อคนที่เป็นโรคเบาหวาน จะมีความดันเลือดสูงตามมาด้วย ส่งผลกระทบและสร้างความยุ่งยากในการใช้ชีวิตไม่น้อย ทั้งเบาหวาน และความดันเลือดสูง มีความเชื่อมโยงกัน จากงานวิจัยพบว่า ผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่พอ และส่งผลให้น้ำตาลในเลือดสูงนั้น 1 ใน 3 จะเป็นโรคความดันเลือดสูงด้วย ผลของโรคหนึ่งจะมีแนวโน้มทำให้อาการของอีกโรคแย่ลง ซึ่งโรคเบาหวานจะไปลดความสามารถในการขยายตัวของเลือด และทำให้ร่างกายจัดการกับอินซูลินได้ไม่เหมือนเดิม ส่งผลให้ความดันเลือดสูงขึ้น โรคเบาหวานกับความดันเลือดสูง มักมาคู่กันเพราะมีปัจจัยเสี่ยงเหมือนกัน เช่น น้ำหนักเกินมาตรฐาน ทานอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกาย และไม่ชอบออกกำลังกาย เป็นต้น
-
ไขมันในเลือดสูง
ภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นภาวะที่พบบ่อยร่วมกับโรคเบาหวาน เป็นปัจจัยเสริมให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยไขมันไม่ดี LDL ที่มากเกินไปในกระแสเลือด จะไปอุดตันผนังหลอดเลือดให้เกิดความเสียหายได้ เมื่อเวลาผ่านไป คราบไขมันอาจทำให้เกิดหลอดเลือดหนาขึ้น (หลอดเลือดแดงแข็ง) และสามารถปิดกั้นหลอดเลือดแดงหยุดการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจ (โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ) หรือสมอง (โรคหลอดเลือดสมองตีบ) ไตรกลีเซอไรด์สูง และไขมันตัวดี HDL ต่ำ เป็นภาวะที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน เนื่องจากการควบคุมระดับน้ำตาลไม่ดี ทำให้ไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นได้ และภาวะที่ไขมันดี HDL ต่ำ จะส่งผลลดการกำจัดไขมันเลว LDL ออกจากกระแสเลือด ทำให้ไขมันเลว LDL สูงมีส่วนทำให้หลอดเลือดแดงแข็งตัว และเมื่อหลอดเลือดแดงแข็งตัว จะส่งผลให้เลือดและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ
-
โรคหลอดเลือดหัวใจ (โรคหัวใจ)
อาการเจ็บหน้าอกของโรคหลอดเลือดหัวใจในผู้ป่วยเบาหวาน มักไม่ชัดเจน เนื่องจากมักมีปัญหาที่ปลายประสาทรับความรู้สึกเสื่อมสภาพร่วมด้วย ทำให้การวินิจฉัยโรค เป็นได้ยากกว่าปกติ อาการอื่นที่ทำให้สงสัยว่า อาจเป็นโรคหัวใจ ได้แก่ อาการเหนื่อยง่ายกว่าปกติ อาการแน่นอึดอัดบริเวณกลางหน้าอกข้างซ้าย หรือลิ้นปี่ อาการปวดที่ท้องแขนด้านใน หน้ามืด เหงื่อออก ตัวเย็น ใจสั่น อาการเหล่านี้ ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่ต้องรีบปรึกษาแพทย์
จะเห็นได้ว่า เราต้องลดสาเหตุของการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง จะดีที่สุด โดยสิ่งที่สำคัญคือ หมั่นระวังระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เน้นการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และสารอาหารครบถ้วน มีกากใยสูง หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเน้นการออกกำลังกาย เพียงเท่านี้ เราก็สามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ได้อย่างง่าย ๆ พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ
……………………………………
บทความสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
สูตรลดไขมันในเลือด สมุนไพรดักจับไขมัน ปลอดภัย ดีต่อร่างกาย
EP.179 : 8 อาหารที่ไม่ควรกินก่อนนอน