แม้ว่าการกินถั่งเช่าจะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์หลายประการ แต่หากกินมากเกินไปหรือเลือกทานถั่งเช่าราคาถูกซึ่งผลิตจากวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพระยะยาวตามมาได้ วันนี้เราจึงอยากพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับสมุนไพรจีนชนิดนี้กันว่าคืออะไร มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรบ้าง และที่สำคัญเราจะมาแนะนำวิธีการกินที่ถูกต้องและปริมาณที่ควรได้รับที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อไต
ถั่งเช่าคืออะไร
หากพูดถึงสมุนไพรชนิดนี้แล้ว หลายคนอาจรู้จักกันในชื่อว่า “หญ้าหนอน” ซึ่งเป็นสมุนไพรจีนที่เกิดจากการนำเห็ดและหนอนผีเสื้อที่กินสปอร์ที่อยู่ในดิน โดยสปอร์จะดูดสารอาหารจากตัวหนอนผีเสื้อและเติบโตกลายเป็นเห็ดรูปร่างคล้ายไม้กระบอกโผล่ขึ้นมาจากปากของหนอน และหนอนจะค่อย ๆ ตายไปเอง ถั่งเช่าส่วนใหญ่พบได้ตามเทือกเขาสูงแถบทิเบต, ยูนาน, กานซู ที่ระดับความสูง 10,000-12,000 ฟุต จากระดับน้ำทะเล ถั่งเช่าแบ่งเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ถั่งเช่า และเห็ดถั่งเช่าสีทองซึ่งเป็นเห็ดเพียงอย่างเดียว ไม่มีส่วนประกอบของหนอนแต่อย่างใด ถั่งเช่าเป็นยาอุ่นร้อน ส่วนเห็ดถังเช่าสีทองเป็นอาหารฤทธิ์กลาง ทานคู่กับมื้ออาหารได้
สารอาหารที่มีอยู่ในถั่งเช่า
ถั่งเช่าอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญต่อร่างกาย ดังนี้
- โพแทสเซียม ช่วยปรับสมดุลของน้ำในร่างกายและช่วยให้หัวใจเต้นเป็นปกติ
- แคลเซียม ช่วยปรับสมดุลความดัน ลดอาการตะคริวและเพิ่มแร่ธาตุให้กระดูกในร่างกาย
- โซเดียม ช่วยควบคุมสมดุลน้ำและของเหลวในร่างกาย, ควบคุมระบบความดันโลหิต, เสริมสร้างการทำงานของเซลล์ประสาทและกล้ามเนื้อ
- แมกนีเซียม เสริมสร้างเจริญเติบโตและบำรุงกระดูก, ช่วยปรับสมดุลกรดในกระเพาะ ทำให้อุจจาระเคลื่อนผ่านลำไส้ง่ายขึ้น
- ธาตุเหล็ก ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน, บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส, ป้องกันภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก
- สังกะสี ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน, ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอ, กระตุ้นการเผาผลาญของร่างกาย
- ซีลีเนียม ป้องกันอาการอ่อนเพลียจากกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ, ชะลอความเสื่อมของวัย อีกทั้งช่วยป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด
- โปรตีน เพิ่มการทำงานให้ระบบเผาผลาญ, เสริมสร้างและบำรุงกล้ามเนื้อให้แข็งแรง, เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน, ช่วยสร้างความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
- วิตามิน B1 ช่วยเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายและเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อให้ร่างกายนำไปใช้, ช่วยให้หัวใจทำงานได้อย่างปกติ
- วิตามิน B2 ป้องกันแผลในช่องปากและภาวะไมเกรน, บำรุงผิวหนัง เล็บ และเส้นผมให้มีสุขภาพดี, ป้องกันโรคมะเร็งหลอดอาหาร
- วิตามิน B12 ช่วยให้การทำงานของระบบประสาทเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ, ช่วยลดปริมาณกรดอะมิโนในเลือด, ลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมองและโรคหัวใจ
- กรดอะมิโน ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย, ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท, ช่วยให้การนอนหลับเป็นไปโดยธรรมชาติ
- สเตอรอล (Sterols) ช่วยลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี, ช่วยทำลายเซลล์มะเร็งเต้านม, ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมาก
- นิวคลีโอไทด์ (Nucleotide) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน อีกทั้งเป็นสารอาหารสำคัญต่อการเจริญเติบโตและการทำงานของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย
- โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide) เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน, ช่วยลดอนุมูลอิสระ ต้านทานต่อการเกิดโรคมะเร็ง, ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
ประโยชน์ที่ได้จากการกินถั่งเช่า
1. กระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ
จากบทความของสำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล พูดถึงถั่งเช่าไว้ว่า ถั่งเช่าช่วยเพิ่มปริมาณสเปิร์มในอสุจิถึง 33% และลดโอกาสผลิตสเปิร์มที่ผิดปกติ 29% อีกทั้งเพิ่มความต้องการทางเพศให้สูงขึ้นสำหรับผู้ที่มีความต้องการทางเพศต่ำมากถึง 66%
2. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด
ถั่งเช่ามีฤทธิ์ช่วยลดและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้มากถึง 95% ในกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานที่กินเป็นประจำในปริมาณ 3 กรัม/วัน
3. ควบคุมระดับไขมันในเลือด
นอกจากจะควบคุมระดับไขมันในเลือดแล้ว ถั่งเช่ายังช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันไตรกลีเซอไรด์อีกด้วย เนื่องจากมีสาร Cordycep ที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ จึงช่วยลดความดันโลหิต บรรเทาอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ
4. ช่วยบำรุงระบบทางเดินหายใจ
ถั่งเช่าช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งช่วยขยายหลอดเลือดและเพิ่มปริมาณของเลือดที่เข้าไปหล่อเลี้ยงหัวใจและปอด นอกจากนี้ยังเพิ่มระดับออกซิเจนและระบบไหลเวียนโลหิต บรรเทาอาการขาดออกซิเจนที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
5. บำรุงสมอง
นอกจากจะช่วยลดการตายของเซลล์ในสมองแล้ว ถั่งเช่ายังช่วยเพิ่มความจำและป้องกันโรคความจำเสื่อมอีกด้วย อีกทั้งมีส่วนช่วยระงับประสาท บรรเทาอาการหงุดหงิดง่ายได้
ข้อควรระวังในการกินถั่งเช่า
- ถั่งเช่ามีฤทธิ์กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
- ถั่งเช่ามีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กินยาละลายลิ่มเลือด
- หากต้องการกินจริง ๆ ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากถั่งเช่าอาจทำให้ความดันต่ำ, ใจสั่น และหน้ามืด
- ควรเลือกถั่งเช่าที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีการตรวจพบโลหะหนักและสารหนูปนเปื้อนอยู่ในถั่งเช่าราคาถูกและไม่ได้มาตรฐาน
ใครบ้างที่ไม่ควรกินถั่งเช่า
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- ผู้ป่วยความดันและเบาหวาน
- ผู้ที่มีอาการแพ้เห็ด Cordyceps
- ผู้ป่วยโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
- ผู้ป่วยโรคหัวใจเต้นผิดปกติ
- ผู้ป่วยภาวะตับวาย
ถั่งเช่าอันตรายต่อผู้ป่วยโรคไตจริงหรือไม่?
จากแถลงการณ์ของสมาคมโรคไตแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ได้ให้ข้อสรุปว่า “ไม่สนับสนุนให้ผู้ป่วยโรคไตรับประทานถั่งเช่า หากต้องการรับประทานต้องแจ้งแก่แพทย์ผู้รักษา และไม่ควรหยุดยาแผนปัจจุบันที่รับประทานอยู่” เนื่องจากผลการศึกษาเกี่ยวกับถั่งเช่าและผู้ป่วยโรคไตนั้นใช้เวลาศึกษาเพียง 1-6 เดือนและยังไม่ได้ทดลองกับมนุษย์จริง ๆ จึงไม่อาจทราบผลดีและผลเสียอย่างแน่ชัด อีกทั้งถั่งเช่าส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่ได้มาจากแหล่งธรรมชาติ แต่มาจากกระบวนการเพาะเลี้ยงในฟาร์ม ทำให้ถั่งเช่าที่เพาะขึ้นมาผลิตสารออกฤทธิ์แตกต่างกันไป ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไตเนื่องจากไตเป็นอวัยวะสำหรับขับของเสียออกจากร่างกาย หากได้รับสารออกฤทธิ์ที่ไม่เหมาะสมต่อร่างกายจากถั่งเช่า อาจก่อให้เกิดอันตรายได้ง่าย นอกจากนี้ยังพบปัญหาไตเสื่อมของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่กินเป็นประจำด้วย
หรือหากซื้อถั่งเช่ามากินเอง อาจกินผิดวิธีหรือกินในปริมาณที่มากเกินไป จึงอาจส่งผลเสียต่อไตได้ อีกทั้งถั่งเช่าเป็นเครื่องยาจีนที่มีวัตถุดิบราคาสูง มิจฉาชีพบางรายอาจผสมโลหะหนักลงไปในถั่งเช่าแบบผงเพื่อเพิ่มน้ำหนักและราคา รวมถึงมีการนำกำมะถันไปพ่นเคลือบเพื่อป้องกันมอดและแมลงเพื่อให้เก็บได้นาน ซึ่งสารเหล่านี้อาจส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาวด้วย นอกจากนี้ถั่งเช่าที่ถูกผสมวิตามินและสารอื่นลงไปก็อาจส่งผลต่อไตได้เช่นกัน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไต
ถั่งเช่าปริมาณเท่าไหร่ถึงจะดีต่อสุขภาพ
สำหรับปริมาณถั่งเช่าแบบตัวที่ควรกินสำหรับผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ควรกินประมาณ 3-9 กรัม โดยชงกับน้ำร้อน หรือนำมาประกอบอาหาร ส่วนการกินแบบสกัดจะต้องระวังเรื่องปริมาณพอสมควร หากกินมากเกินไปอาจส่งผลต่อร่างกายในระยะยาว ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง อย่าลืมนะคะว่าถั่งเช่ามีฤทธิ์อุ่นร้อน หากคนที่อุณหภูมิร่างกายที่ร้อนอยู่แล้วกินเข้าไป ถั่งเช่าที่กินไปนั้นอาจเสริมให้ร่างกายร้อนยิ่งขึ้น
บทความที่น่าสนใจ
5 สมุนไพรจีน ยอดฮิต แนะวิธีเลือกยาจีนอย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด ?
พริกหม่าล่า สมุนไพรจีนแก้หวัด ลดความดันโลหิต และแก้โลหิตจาง