สัปดาห์ที่ผ่านมาของทุกท่านเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ผมเดาว่าก็คงมีความคล้ายสัปดาห์ก่อนๆ ที่ผ่านมา
… คล้ายเดือนก่อนๆ ที่ผ่านมา
… คล้ายๆ ปีก่อนที่ผ่านมา
อาจจะมีความแตกต่างบ้างเล็กน้อย แต่ส่วนใหญ่ก็คงไม่พ้นการวนๆ อยู่กับการแก้ปัญหา และความเร่งรีบ เพื่อที่จะหนีจากอะไรก็ไม่รู้ที่หน้าตาคล้ายๆ ภาระ หรือความกดดัน และวิ่งไปหาอะไรก็ไม่รู้ที่หน้าตาคล้ายๆ ความสำเร็จ ชื่อเสียง เกียรติยศและเงินทอง เกือบทุกชีวิตนั้นก็อยู่ในวังวนของการวิ่งเป็นหนูถีบจักรแบบนี้ วนแล้ววนเล่า ที่ไม่รู้ว่ามันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีเราก็กำลังวิ่งอยู่ในวงจรนี้มาตั้งนานแล้ว
พอเริ่มรู้สึกตัว เราก็เริ่มที่จะคิดได้ว่าจะให้วิ่งแบบนี้ไปทั้งชีวิตคงไม่ใช่แน่ๆ เราจึงเริ่มที่จะวางแผนการออกจากวงจรหนูถีบจักร หรืออย่างน้อยก็ขอให้ได้พักการวิ่งวนแบบนี้บ้างเพื่อชาร์จพลังให้ลุกมาวิ่งต่อได้ก่อนจะหมดแรง ในขณะที่คนส่วนใหญ่ (และนั่นคงหมายรวมถึงผมเองด้วย) ยังไม่สามารถที่จะวางมือเอาตัวเองออกจากวังวนของความเร่งรีบและการแข่งขันได้นั้น มนุษย์เราก็เลยเริ่มที่จะคิดหาทางเอาชนะโจทย์ และอุปสรรคที่เข้ามา เพื่อให้เราสามารถที่จะบริหารจัดการสิ่งที่บริหารจัดการได้ยาก ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของเราให้มากที่สุด เช่น วงจรการสร้างรายได้ การบริหารลูกน้องและทีมงาน การหางานที่เหมาะกับเรา การทำงานร่วมกับคู่ค้า การจัดการผลิตและจัดส่ง ฯลฯ เราจึงสร้างเครื่องมือในการบริหารจัดการขึ้นมามากมาย ในอดีตก็ผ่านตำราของกูรูระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น หลักการตลาดของฟิลิป คอตเลอร์, หลักบริหารการเงินแบบพ่อรวยสอนลูก ของโรเบิร์ต คิโยซากิ หรือ ในโลกยุคใหม่เราก็ใช้การจัดการงานต้างๆ ผ่านเครื่องมือทางไอที ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการองค์กรอย่าง ERP หรือระบบจัดการงานอย่างกูเกิ้ลแพลทฟอร์มทั้งหลาย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้สามารถเอาชนะและไปให้ถึงเป้าหมายที่เราต้องการ เปรียบเสมือเป็นโลกใบย่อมๆ ของเราท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
.
อย่างไรก็ดี ผมอยากชวนทุกคนให้ลองพักจากการวิ่งอยู่ในสนามแข่งขันนั้น ได้ลองสูดลมหายใจ และตรึกตรองสักนิด ว่าทุกวันนี้สิ่งที่บังคับให้เราต้องวิ่งวนอยู่ในการแข่งขันนั้น แท้จริงแล้วต้นเหตุนั้นคือมาจากการที่มีคนมาบังคับให้เราทำ หรือเราเองต่างหากที่ต้องการจะเอาชนะโลกใบนี้ให้ได้ การมีความมุ่งมั่นที่จะออกไปเอาชนะอุปสรรค และสร้างความก้าวหน้าให้ตนเองได้นั้นเป็นความตั้งใจที่ดี เพียงแต่ผมอยากทิ้งท้ายด้วยข้อคิดสักเล็กน้อย เพื่อให้มั่นใจว่า การออกไปท้าทายโลกของเรานั้น จะได้ทำด้วยความเข้าใจและไม่ใช้มือเอื้อมคว้าเป้าหมายแต่ต้องปล่อยมืออีกข้างจากสิ่งที่เรียกว่าความสุข
.
หากเพียงแต่ว่าเรานั้น เมื่อคิดจะออกไปเอาชนะโลกให้ได้ อย่าลืมหันมาเอาชนะใจตัวเองให้ได้เสียก่อน เพราะเมื่อคราวแพ้คนอื่นจะได้เข้าใจโลก และเมื่อถึงคราวชนะคนอื่นเราจะได้ไม่ลืมตัว ที่สำคัญ ในโลกแห่งการแข่งขันนั้น การเอาเปรียบคนอื่นได้ ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งคิดว่ามันช่างเท่ห์จนน่าอวด เพราะการทำความดีนั้นโจรก็ทำสามารถได้ แต่การไม่ทำสิ่งชั่วร้ายต่างหากที่จะช่วยทั้งตนเองและโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้จริง เพราะที่สุดแล้วการจะเอาชนะวังวนของโลกใบนี้ให้ได้นั้น เคล็ดลับอาจจะไม่ใช่การวิ่งอย่างสุดแรงและเร็วกว่าคนอื่น
แต่อยู่ที่การรู้ที่จะเอาชนะใจตนเอง และรักษาสปีดการวิ่งที่เหมาะสมของเรา เพื่อให้เราได้มีความสุขกับการวิ่งไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องแข่งกับใคร เป็นการฝึกฝนที่จะลดการเอาชนะคนอื่นลง แต่หันมาเอาชนะใจตนเองให้ได้เป็นสำคัญครับ