ใคร ๆ ก็รู้ว่า ปลาทูและปลาทูน่านั้นเป็นปลาที่มีประโยชน์ แต่ก็อาจจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่เกิดสงสัยว่า แล้วปลาชนิดไหนกันแน่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายที่สุด? วันนี้ I-kinn มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากค่ะ
ความแตกต่างระหว่าง ปลาทูกับปลาทูน่า และปลาแมกเคอเรล
สำหรับคนไทยเรามักจะต้องคุ้นเคยและคุ้นหูกับคำว่า ปลาทู ปลาทูน่า และปลาแมกเคอเรล แต่น้อยคนมากที่จะสามารถแยกแยะหรือเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของปลาทั้ง 3 ชนิดนี้ว่าแตกต่างกันอย่างไร คุณสามารถเข้าใจง่าย ๆ ตามนี้ค่ะ
ปลาทู
ปลาทู (Rastrelliger) เป็นปลาทะเลชนิดหนึ่งที่อยู่กลุ่มเดียวกันกับวงศ์ปลาอินทรี (Scombridae) มีพฤติกรรมการดำรงชีพคือ ชอบอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งจนถึงระดับความลึกประมาณ 200 เมตรแถว ๆ บริเวณน่านน้ำไทย และนิยมอยู่กันเป็นฝูง ในประเทศไทยนั้นมักจะเจอปลาทูอยู่ 3 ชนิด คือ
- ปลาทูสั้น (Rastrelliger brachysoma)
- ปลาทูปากจิ้งจก (Rastrelliger faughni)
- ปลาทูโม่ง (Rastrelliger kanagurta)
โดยสายพันธุ์ปลาทูที่นิยมทานกันมากที่สุดก็คือปลาทูสั้น (Rastrelliger brachysoma) หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของ “ปลาทูแม่กลอง หน้างอคอหัก” เมนูที่นิยมนำมาทำก็คือนำมาทอดในน้ำมันจนหนังเหลืองกรอบ ทานกับข้าว แกล้มน้ำพริกปลาทู หากเป็นปลาทูสดจะนำมาทำต้มยำหรือแกงส้ม
ประโยชน์ของปลาทู
เนื้อปลาทูอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา 3 ช่วยบำรุงหัวใจ ลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบ ช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลไตรกลีเซอไรด์
ปลาแมกเคอเรล
ปลาแมกเคอเรล (mackerel ) ไม่ได้เป็นชื่อของสายพันธุ์ปลา แต่จะเป็นชื่อเรียกกลุ่มปลาทะเลที่อยู่ในวงศ์ Scombridae หรือวงศ์ปลาอินทรี ส่วนใหญ่มักจะเป็นปลาที่อาศัยในเขตร้อนและเขตอุ่น สายพันธุ์ปลาที่อยู่ในกลุ่มแมกเคอเรลก็จะมีหลากหลายชนิด เช่น ปลาซาบะ ปลาทูญี่ปุ่น (Blue Mackerel) ปลาทูปากจิ้งจก ปลาโอขาว ปลาโอแกลบ ปลาทูโม่ง ปลาอินทรีลายข้าวตอก ปลาอินทรีจุด ปลาอินทรีบั้ง ปลาทูแขกหางเหลือง ปลาเบกา
ประโยชน์ของปลาแมกเคอเรล
เป็นปลาที่มีไอโอดีนสูง เป็นเนื้อโปรตีนชนิดย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้อย่างรวดเร็ว มีกรดไขมันโอเมกา 3 กรดอะมิโนไลซีน ทรีโอนีน และกรด DHA (Docosahexaenoic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันธรรมชาติที่มีเฉพาะในกลุ่มปลาแมกเคอเรล โดยกรดชนิดนี้เป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง เหมาะสำหรับเด็กและหญิงตั้งครรภ์ เพราะหากร่างกายได้รับกรดชนิดนี้เยอะจะช่วยพัฒนาสมองของเด็กให้ฉลาดตั้งแต่ในครรภ์ ปลาแมกเคอเรลมีเนื้อแน่นทานอร่อย จึงนิยมนำไปแปรรูปทำเป็นปลากระป๋อง
ปลาทูน่า
ทูน่า ปลาทะเลในกลุ่ม Thunnini ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของวงศ์ปลาอินทรี (Scombridae) แบ่งออกเป็น 15 สปีชีส์ 5 กลุ่มหลัก (เช่น ปลาอัลบาคอร์ ปลาทูน่าท้องแถบ ปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ปลาทูน่าครีบเหลือง ปลาทูแท้ ปลาทูน่าตาโต ฯลฯ) ปลาทูน่าเป็นปลาที่นิยมทานกันมากเพราะว่าเนื้ออร่อย เนื้อทูน่าสดจะมีสีชมพูหรือแดงเข้ม นำไปแปรรูป ประกอบเมนูอาหาร หรือทานเป็นซาชิมิก็ได้
ประโยชน์ของปลาทูน่า
เนื้อปลาทูน่าเป็นเนื้อปลาที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารสูง เช่น กรดไขมันโอเมกา 3 โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก โซเดียม ช่วยบำรุงหัวใจ ป้องกันเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจแข็งตัว ป้องกันโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง และบำรุงเลือด มีแคลอรี่ต่ำ ช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกาย มีแคลเซียมช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน มีวิตามินที่หลากหลายช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ไม่เจ็บป่วยง่าย ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
สรุปควรทานปลาชนิดไหนดีกว่ากัน ?
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นปลาทู ปลาแมกเคอเรล หรือปลาทูน่า ต่างก็เป็นปลาในวงศ์เดียวกัน คือ วงศ์ปลาอินทรี (Scombridae) ซึ่งทั้งหมดก็มีสารอาหาร แร่ธาตุ วิตามิน และกรดไขมันโอเมกา 3 ที่เหมือน ๆ กัน ดังนั้นผู้บริโภคสามารถเลือกทานได้ตามความสะดวกเลยค่ะ แต่หากเป็นผู้ป่วยโรคไตหรือต้องการควบคุมโซเดียมควรระมัดระวังในการทานปลาแมกเคอเรล เนื่องจากปลาแมกเคอเรลมักจะเป็นปลาที่แปรรูป เช่น ปลากระป๋องซึ่งมีโซเดียมสูงมากจากกระบวนการถนอมอาหาร ดังนั้นหากต้องทานจริง ๆ ควรแบ่งทานกระป๋องละ 2-3 มื้อ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
กินปลาทำไมอ้วน เนื้อปลาเป็นโปรตีนที่ดี ไขมันต่ำ จริงหรือ?
กินนัตโตะครั้งแรกอย่างไร ให้กินง่าย ไม่เหม็น
สิงห์
June 23, 2023สรุปแล้วมึงพูดเรื่องอะไรเนี่ยกูไม่รู้เรื่องเลย