ตับหมู ประโยชน์และโทษ
กะเพราตับหมู ตับหวาน ตับหมูผัดพริกหยวก นอกจากนี้ก็เห็นได้ในเมนูก๋วยเตี๋ยว ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก รวมถึงเป็นเครื่องอย่างหนึ่งในหม้อจิ้มจุ่ม หม้อชาบู เป็นต้น ด้วยความที่ตับหมูนั้นเป็นเครื่องในหมูที่มีรสชาติที่สามารถนำไปปรุงได้หลากหลายจนทำให้เป็นของโปรดของใครหลายคน แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าตับหมู ประโยชน์ของมันมีอะไรบ้าง และโทษของตับหมูหากทานมากเกินไป มีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของตับหมูที่ดีต่อร่างกาย
การรับประทานอาหารที่มีตับหมูเป็นวัตถุดิบ นอกจากจะอร่อย รสชาติกลมกล่อมและกลมกลืนไปกับเครื่องปรุงหลากหลายชนิด ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายและให้สารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย เช่น เป็นแหล่งสารอาหารหลายชนิด ช่วยบำรุงสารตา บำรุงสมอง เสริมสร้างภูมิต้านทาน ซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ดูแลกระดูกให้แข็งแรง และเป็นแหล่งพลังงานชั้นดี
1 . เป็นแหล่งสารอาหารหลายชนิด
ในตับหมูจะมีสารอาหารหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายรวมถึงแร่ธาตุและวิตามินที่หลากหลาย เช่น ธาตุเหล็ก ซีลีเนียม วิตามิน B หลายชนิดเช่น B12 โฟเลท ไรโบฟลาวิน วิตามิน A คอปเปอร์ แมงกานีส ฟอสฟอรัส ซิงค์ ซึ่งในการทานตับหมูจะเพียงพอต่อสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายในแต่ละวัน ลดโอกาสการเกิดภาวะทุพโภชนาการที่เกิดจากการขาดสารอาหาร
2 . ช่วยบำรุงสายตา
ตับหมูเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มีวิตามิน A สูงที่สุดเมื่อเทียบกับส่วนเนื้อ ปลา ไข่ หรือนม และวิตามิน A ก็มีส่วนช่วยในเรื่องของการป้องกันตาแห้ง อาการตาล้า การมองเห็นในที่แสงน้อย รวมถึงทำให้ และทำให้สุขภาพกระจกตาและเนื้อเยื่อของตาดีขึ้นด้วยเช่นกัน ตับหมูเลยเป็นอาหารบำรุงสายตาผู้สูงอายุได้ดีอย่างหนึ่งเลย แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับคนที่ควบคุมคอเลสเตอรอลหรือมีปัญหาโรคเก๊าท์ด้วย
3 . บำรุงสมอง
วิตามิน B12 ที่พบได้ในตับหมู ก็เป็นวิตามินที่สำคัญต่อระบบเซลล์ประสาทและการรับรู้ของสมอง การรับประทานตับหมูที่มีวิตามินชนิดนี้จะช่วยป้องกันและชะลอการเสื่อมของการรับรู้และการเสื่อมของเซลล์ประสาท รวมถึงธาตุเหล็กที่พบในตับหมูก็มีส่วนช่วยในการลำเลียงออกซิเจนในเลือดเข้าสู่สมองและร่างกายอีกด้วยเช่นกัน
4 . เสริมสร้างภูมิต้านทาน
วิตามิน A ที่พบได้ในตับหมู รวมถึงธาตุเหล็กและซีลีเนียม มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิต้านทาน ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดสิ่งแปลกปลอมหรือการติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
5 . ซ่อมแซมและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ตับหมู เป็นแหล่งอาหารอย่างหนึ่งที่มีโปรตีนสูงและมีกรดอะมิโนที่จำเป็น ทำให้เป็นอาหารที่มีส่วนช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ ซ่อมแซม และคงกล้ามเนื้อ
6 . ดูแลกระดูกให้แข็งแรง
เนื่องจากในตับหมูจะมีแคลเซียมอยู่บ้าง รวมถึงวิตามิน D และวิตามิน K ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งวิตามิน K จะทำหน้าที่ย่อยแคลเซียมและเข้าไปเสริมสร้างกระดูก ลดโอกาสการเกิดโรคเกี่ยวกับกระดูกได้ด้วยเช่นกัน
7 . ดีต่อระบบเผาผลาญ
ตับหมู เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่สำคัญต่อการเผาผลาญพลังงาน ด้วยความที่ตับหมูมีวิตามิน B2 (ไรโบฟลาวิน) วิตามิน B3 (ไนอาซิน) วิตามิน B5 (กรดแพนโทเทนิก) และวิตามิน B12 ที่มีส่วนช่วยทำให้เปลี่ยนอาหารกลายเป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม
โทษของตับหมูหากทานในปริมาณที่มากเกินไป
การทานตับหมูในปริมาณที่พอดี จะมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าหากทานในปริมาณที่มากเกินไป ก็อาจส่งผลเสียหลายด้าน เช่น คอเลสเตอรอลในเลือดสูง ทำให้กรดยูริกสูง วิตามิน A เกินขนาดที่จำเป็น ธาตุเหล็กเกินขนาดที่จำเป็น และอาจมีอาการแพ้ได้
คอเลสเตอรอลในเลือดสูง
แม้ว่าตับหมูจะมีแคลอรี่ไม่สูงมากนัก แต่เป็นอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง ตับหมู 85 กรัม มีคอเลสเตอรอลถึง 375 มิลลิกรัม และตับหมูก็เป็นอาหารไขมันอิ่มตัว ซึ่งเป็นไขมันเลว (LDL) หากรับประทานในปริมาณที่มากเกินไปหรือไม่มีการควบคุม ก็อาจทำให้ระดับคอเลสเตอรอลพุ่งสูงขึ้น เสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคหลอดเลือดสมองด้วยเช่นกัน
ทำให้กรดยูริกสูง
ตับหมูเป็นอาหารอย่างหนี่งที่มีปริมาณพิวรีนสูงมาก ซึ่งเมื่อพิวรีนเข้าสู่งร่างกาย ร่างกายจะเปลี่ยนพิวรีนเป็นกรดยูริก ยิ่งพิวรีนสูง กรดยูริกก็ยิ่งสูง ตับหมูเลยเป็นอาหารที่มีกรดยูริกสูง ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคเก๊าท์และโรคนิ่วในไต และหากป่วยเป็นโรคเก๊าท์ การทานตับหมูโดยที่ไม่มีการควบคุมปริมาณ ก็อาจทำให้อาการโรคเก๊าท์กำเริบเฉียบพลันได้ด้วย
วิตามิน A เกินขนาดที่ร่างกายควรได้รับ
เนื่องจากตับหมูมีวิตามัน A สูง หากทานในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยบำรุงสายตา รวมถึงเสริมสร้างภูมิต้านทาน แต่ถ้าทานอาหารที่มีวิตามิน A สูงในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ร่างกายเกิดภาวะพิษจากวิตามิน A อาจทำให้เวียนหัว ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน ภาพเบลอ หรืออาจทำให้ตับเสียหายได้ คนที่กำลังอุ้มท้องควรเลี่ยงการทานตับหมูที่มีวิตามิน A สูง
ธาตุเหล็กเกินขนาดที่ร่างกายควรได้รับ
ธาตุเหล็กเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย แต่จะส่งผลเสียหากมีปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะเหล็กเกิน (Hemochromatosis) อาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดข้อ ปวดท้อง และอาจทำให้อวัยวะภายในเสียหายได้
อาจมีอาการแพ้
บางคนอาจแพ้การรับประทานเครื่องในสัตว์ โดยเฉพาะการแพ้โปรตีนจากตับ หากรับประทานตับหมูมากเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพโดยรวมได้
ใครบ้างที่ควรเลี่ยงหรือลดการทานตับหมู?
– คนที่กำลังอุ้มท้อง เนื่องจากตับหมูมีวิตามิน A สูง หากรับวิตามิน A จำนวนมากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อทารกและอาจทำให้ทารกติดเชื้อได้
– ผู้ที่ป่วยเกี่ยวกับโรคตับ อย่างโรคตับอักเสบหรือโรคตับแข็ง ควรเลี่ยงการทานตับหมู เนื่องจากวิตามิน A จำนวนมาก อาจทำให้ตับทำงานหนักมากขึ้น
– ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ เนื่องจากตับหมูเป็นอาหารที่มีพิวรีนสูง ทำให้ร่างกายผลิตกรดยูริกสูง ผู้ป่วยโรคเก๊าท์ควรเลี่ยงหรือควบคุมปริมาณการทานตับหมู
ตับหมู ทานอย่างพอดีเพื่อประโยชน์และเลี่ยงโทษของตับหมู
สรุป การทานตับหมูในปริมาณที่พอเหมาะจะส่งผลดีต่อร่างกายในหลายด้าน แต่การทานในปริมาณที่มากจนเกินไป อาจทำให้ส่งผลเสียมากกว่าส่งผลดี เพราะฉะนั้น ควรควบคุมปริมาณการทานตับหมูในแต่ละมื้อ ไม่ทานตับหมูมากเกินไปในแต่ละวัน
อ่านบทความเพิ่มเติม :
ปลาแซลมอน ประโยชน์หลากหลายของคนรักปลาส้ม กินทุกวันได้ไหม
เห็ดหูหนู ประโยชน์มากมายที่ดีต่อสุขภาพ กินง่ายแถมอร่อย
11 อาหารบำรุงหัวใจ พร้อมเมนูอาหารป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด