“หวานเป็นลม ขมเป็นยา” เป็นประโยคที่คุ้นหูของคนไทยทุกคน เนื่องจากเป็นคำเปรียบเปรยที่พูดถึงอาหารที่มีรสขมนั้นมักจะมีประโยชน์ ซึ่งพอพูดถึงอาหารที่มีรสขมที่หลายคนมักจะนึกถึงก็คือ “มะระ” ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์มากมายนานานับประการ แต่ก็มีรสขมซะจนบางคนยอมแพ้ไม่สามารถทนทานได้ วันนี้ I-kinn ก็มีวิธีทำให้มะระไม่ขม เพื่อเวลานำไปปรุงอาหารจะได้ช่วยลดทอนความขม สามารถทานง่ายขึ้น และได้รับประโยชน์ของมะระไปอย่างเต็ม ๆ ด้วยค่ะ
ประโยชน์จาก “มะระ”
ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
การทานมะระเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวาน เพราะมะระมีส่วนช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือดสูง โดยมีผลงานวิจัยได้ทำการทดลองให้อาสาสมัครผู้ใหญ่ 24 คนที่มีภาวะเบาหวาน รับประทานมะระขี้นกวันละ 2,000 มก. ติดต่อกันเป็นเวลา 3 เดือน ผลพบว่า ค่าน้ำตาลในเลือดลดลง และมีผลวิจัยบางชิ้นที่ระบุว่า มะระช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือดได้ เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานประเภทที่ 2
ควบคุมน้ำหนัก
มะระเป็นผักที่มีแคลอรี ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตต่ำ ทำให้เวลาทานเข้าไปแล้วรู้สึกอิ่มท้อง อิ่มนาน ทำให้ไม่หิวจุกจิก เมนูมะระเหมาะสำหรับทานในช่วงไดเอท นอกจากประโยชน์ในการได้รูปร่างที่สวยงามแล้ว ยังป้องกันภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนลงพุงด้วย ซึ่งเมื่อไม่มีภาวะไขมันเกินก็จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวานไปในตัว
ลดอาการท้องผูก
เส้นใยอาหารในมะระมีปริมาณที่สูง ส่งเสริมให้แบคทีเรียในลำไส้แข็งแรง ช่วยดูดซึมอาหารได้ดี ช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นไปอย่างปกติ ไม่ท้องผูก อาหารไม่ย่อย
ต้านมะเร็ง
มีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า มะระอุดมไปด้วยสารฟีนอลหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นกรดแกลลิก (Gallic Acid) กรดคาเฟอิก (Caffeic Acid) และคาเทชิน (Catechin) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมะเร็งและลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเต้านมได้
บำรุงตับ
การทานมะระเข้าไปจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างเอนไซม์ที่ช่วยให้ตับทำงานปกติ ลดการสะสมของแอลกอฮอล์ในตับ กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้ เหมาะสำหรับทานแก้อาการเมาค้างได้ดี
กินมะระยังไงให้รับประโยชน์สูงสุด
มะระสามารถรับประทานได้ทั้งแบบดิบและปรุงสุก แต่ส่วนใหญ่มักจะเลือกทานมะระปรุงสุกมากกว่าเพราะสามารถนำไปปรุงอาหารได้หลายเมนู เช่น ต้มจืดมะระกระดูกอ่อน มะระยัดไส้ มะระหวานผัดไข่ ฯลฯ สาเหตุที่นิยมทานแบบปรุงสุกมากกว่าก็เพราะว่าทานง่ายกว่า เนื่องจากมีวิธีลดความขมได้เยอะ ส่วนมะระสดเองก็มีวิธีทำให้ไม่ขมอยู่เหมือนกัน แต่ถึงแม้ว่าจะมีวิธีลดความขมได้แต่ก็ยังมีหลงเหลืออยู่ ทำให้นิยมนำไปทานเป็นผักแกล้มเช่น ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ กุ้งแช่น้ำปลา ยำรสชาติเข้มข้น ขนมจีนน้ำยาต่าง ๆ
วิธีทำให้มะระไม่ขม ลดความขมจากมะระ
1.การเลือกมะระ
การเลือกมะระนั้นมีผลต่อรสชาติของมะระลูกนั้น หากต้องการมะระที่ไม่ขม ควรเลือกมะระที่มีลักษณะของลูกอวบตรง ไม่หักงอ ผิวมะระมีสีเขียวอ่อน ๆ ไม่ขาวหรือออกเหลือง ริ้วมะระจะต้องเป็นริ้วใหญ่ห่าง ๆ กัน
2.ล้างน้ำหลาย ๆ รอบ
การล้างมะระที่หั่นแล้วหลาย ๆ รอบจะช่วยลดความขมของมะระออกไปได้ หรือบางบ้านก็อาจจะใช้วิธีล้างน้ำ+แช่ทิ้งไว้ก่อนปรุงอาหารประมาณ 10 นาที
3.ใช้เกลือดับความขม
เกลือเป็นเครื่องปรุงสามัญประจำบ้านที่สามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์ เพียงนำมะระที่ล้างและหั่นเรียบร้อยแล้ว โรยเกลือลงไปให้ทั่วแล้วคลุกให้เกลือจับทั่วเนื้อมะระ ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ความขมก็จะลดลงอย่างไม่น่าเชื่อ
4.ลวกน้ำร้อนเร็ว ๆ และน็อคความเย็น
สูตรนี้มักจะใช้กับมะระที่จะนำไปทานสด ๆ คู่เมนูอาหารเป็นกับแกล้ม วิธีคือจะนำมะระไปฝานบาง ๆ จากนั้นตั้งน้ำร้อนให้เดือดแล้วใส่มะระลงไปลวกน้ำร้อนเร็ว ๆ จนมะระเริ่มมีสีเข้มขึ้น จากนั้นให้ตักขึ้นมาน็อคน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัดทันทีเพื่อรักษาสีเขียวสดน่าทานของมะระไว้
5. ต้มแล้วทิ้งน้ำ
การนำมะระไปทำซุป หลายคนมักจะต้มมะระแล้วใช้น้ำนั้น ๆ ปรุงรสชาติต่อเลย ซึ่งแบบนั้นจะทำให้ความขมของมะระลอยอบอวลอยู่ในน้ำต้มนั้น ๆ หากต้องการลดความขมของมะระให้นำมะระไปต้มในน้ำ 1 รอบ จากนั้นให้ทิ้งน้ำต้มรอบแรกทิ้งไปและเติมน้ำใหม่แล้วค่อยนำมาปรุงรสตามชอบ
6.นำมะระไปนึ่ง
วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายบ้านทำแล้วออกปากว่าได้ผลค่ะ คือก่อนนำมะระไปปรุงอาหาร จะทำการนำมะระไปนึ่งก่อน 1 รอบ ความขมของมะระจะหายไป
7. ต้มโดยไม่ปิดฝาหม้อ
ระหว่างการต้มมะระนั้น ห้ามปิดฝาหม้อเด็ดขาด เพื่อให้ความขมและกลิ่นแรง ๆ ของมะระ ระเหยออกไป คงไว้แต่รสหวานอร่อย
โทษของมะระที่ต้องรู้ก่อนกิน
สำหรับมะระนั้นถึงจะเป็นผักที่มีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่อาจจะต้องกินมะระอย่างระมัดระวัง ดังนี้
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน หรือ ควบคุมน้ำตาลในเลือด เนื่องจากมะระมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำตาลในเลือด ซึ่งหากทานเข้าไปมากเกินไป ประกอบกับที่ผู้นั้นกำลังทานยาควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอยู่แล้ว อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดลดต่ำเกินไปจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้นควรทานแต่พอดี หรือหากมีอาการของโรครุนแรงควรปรึกษาแพทย์ก่อนจะดีที่สุด
- หญิงตั้งครรภ์และผู้ให้นมบุตร ไม่ควรทานมะระ เพราะสารประกอบบางอย่างในมะระส่งผลให้เกิดการตกเลือด เสี่ยงต่อภาวะแท้งได้
- ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัด เพราะมะระนั้นมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดทำให้สามารถรบกวนระหว่างการผ่าตัดได้ ดังนั้นหากต้องผ่าตัดควรงดการกินมะระเป็นเวลาอย่างน้อย 14 วัน
- ผู้ที่มีภาวะขาดเอนไซม์จีซิกพีดี (G6PD)
ข้อควรระวังในการทานมะระ
ไม่ควรทานมะระติดต่อกันทุกวันเกิน 4 เดือน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
อาหารกากใยสูง ช่วยขับถ่าย ลดน้ำหนัก หน้าท้องยุบ
อาหารไม่ย่อย อึดอัดแน่นท้อง หลังทานอาหาร แก้ไขอย่างไร