การเลือกใช้น้ำตาล ชนิดน้ำตาลมีอะไรบ้าง น้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายต่างกันอย่างไร เหมาะกับใครมากกว่ากัน วันนี้ I-Kinn มีคำตอบให้ค่ะ
น้ำตาล คืออะไร?
น้ำตาล (Sugar) คือ เป็นเครื่องปรุงรสประจำบ้านที่มีสารประกอบของสารคาร์โบไฮเดรตประเภทโมโนแซ็กคาไรด์ (monosaccharide) และไดแซ็กคาไรด์ (disaccharide) ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่ให้รสชาติหวาน สามารถปรุงรส เติมแต่งรสชาติอาหารและช่วยบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลให้ระบบการทำงานของอวัยวะภายในทำงานได้อย่างปกติ เช่น ระบบหายใจ ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงระบบไหลเวียนโลหิต กระตุ้นการย่อยอาหาร แต่ถึงแม้ว่าน้ำตาลจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายแต่หากทานน้ำตาลมากไปก็จะเกิดการสะสมทำให้เป็นโรคอ้วนได้ ดังนั้นองค์การอนามัยโลกจึงได้แนะนำให้เราไม่ควรทานน้ำตาลสูงสุดไม่เกิน 10 ช้อนชาต่อวัน หรือแค่ 6 ช้อนชาต่อวันก็เพียงพอแล้ว
ชนิดของน้ำตาล มีอะไรบ้าง
น้ำตาลสามารถแบ่งประเภทออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (Monosaccharide)
ลักษณะของน้ำตาลประเภทนี้ก็คือ เป็นน้ำตาลที่ละลายน้ำง่าย เมื่อทานเข้าไปแล้วร่างกายสามารถดึงพลังงานไปใช้ได้ทันที สามารถแบ่งออกเป็นอีก 3 ประเภท คือ
- น้ำตาลกลูโคส (glucose)เป็นน้ำตาลที่ให้พลังงานดีในการบำรุงสมองและเม็ดเลือด สามารถหาได้จาก ข้าว แป้ง น้ำตาล น้ำผึ้ง ผัก และผลไม้ แต่ควรระมัดระวังในการทานเพราะหามีมากเกินความต้องการในร่างกายก็จะทำให้เกิดไขมันไปสะสม
- น้ำตาลฟรุกโตส (Fructose) เป็นน้ำตาลชนิดที่มักเจอในผลไม้ประเภทมะม่วง กล้วย แตงโม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ และน้ำผึ้ง ข้อดีของน้ำตาลชนิดนี้คือ มีดัชนีน้ำตาลต่ำ เมื่อทานเข้าไปแล้วร่างกายสามารถดึงพลังงานไปใช้ได้ทันที แต่ข้อเสียคือ หากรับน้ำตาลชนิดเข้าไปมากๆ จะกระตุ้นให้รู้สึกหิวง่าย และอยากกินนั่นกินนี่ตลอด
- น้ำตาลกาแลคโตส (Galactose) เป็นน้ำตาลชนิดที่มักเจอใน “นม” นิยมใช้ในการประกอบอาหารประเภทขนมปัง และนม
2. น้ำตาลโมเลกุลคู่ (Disaccharide)
ลักษณะของน้ำตาลประเภทนี้ก็คือ เป็นน้ำตาลที่ละลายน้ำง่ายดีเช่นเดียวกัน แต่ว่า เมื่อทานเข้าไปแล้วร่างกายไม่สามารถดึงพลังงานไปใช้ได้ทันทีเหมือนน้ำตาลโมเลกุลเดียว สามารถแบ่งออกเป็นอีก 3 ประเภท คือ
- น้ำตาลซูโครส (Sucrose) ก็คือ น้ำตาลทราย น้ำตาลอ้อย น้ำตาลที่ได้จากหัวบีทรูทและผลไม้ที่มีรสชาติหวานๆ
- น้ำตาลมอลโตส (Maltose) ก็คือน้ำตาลที่เจอในข้าวมอลต์ น้ำนมข้าว และข้าวโพด
- น้ำตาลแลคโตส (Lactose) เป็นน้ำตาลที่พบในนม แต่บางคนอาจจะมีอาการแพ้แลคโตส ดังนั้นหากทานแล้วมีอาการแพ้ควรเลี่ยงและปรึกษาแพทย์
ชนิดน้ำตาลแต่ละประเภทเหมาะกับใช้ทำอะไร
น้ำตาลทรายขาว
รสชาติหวานแหลมเป็นน้ำตาลที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในครัวเรือน สามารถปรุงรสชาติอาหารได้ทั้งคาวและหวาน รสชาติหวานแหลม ไม่มีกลิ่นหอมเฉพาะ สามารถใช้ทดแทนน้ำตาลชนิดอื่นๆ ได้ แต่สำหรับเมนูที่ต้องใช้กลิ่นหอมเฉพาะน้ำตาลทรายขาวอาจจะไม่เหมาะค่ะ
น้ำตาลทรายธรรมชาติ
เป็นน้ำตาลจากอ้อยธรรมชาติ ไม่ผ่านการฟอกสี ทำให้เกล็ดน้ำตาลมีสีน้ำตาลอ่อนๆ หรือ สีชา รสชาติหวานอ่อนๆ หอมกว่าน้ำตาลทรายขาว สามารถปรุงรสชาติเครื่องดื่มและอาหารที่ได้ทั้งคาวหวาน
น้ำตาลทรายแดง
เป็นน้ำตาลจากอ้อยธรรมชาติ ให้รสชาติหวานหอม ไม่หวานแหลมเหมือนน้ำตาลทรายขาว บางเจ้ามีสีน้ำตาลอ่อน บางเจ้าก็มีสีน้ำตาลแดง เป็นน้ำตาลที่มีประโยชน์มาก ช่วยบำรุงร่างกาย ระบบเลือด บรรเทาอาการปวด นิยมนำไปประกอบอาหารหวานและเครื่องดื่ม เช่น ถั่วเขียวต้มน้ำตาล เต้าฮวย และเฉาก๊วย
น้ำตาลโตนด
คนโบราณจะเรียกน้ำตาลชนิดนี้ว่า “น้ำตาลหม้อ” ผลิตจากน้ำหวานของช่อดอกตาล มีสีน้ำตาลแดงรสชาติหวานหอมกลมกล่อม สามารถนำไปทำอาหารได้หลากหลายชนิดทั้งคาวและหวาน ของคาวก็จะนำไปใส่น้ำพริกหรือเมนูแกง เมนูหวานเช่น กล้วยบวชชี ลอดช่อง
น้ำตาลอ้อย
น้ำตาลอ้อยจะเป็นน้ำตาลที่ผลิตจากน้ำอ้อนคั้นสดจากธรรมชาติแล้วนำไปเคี่ยวจนเหนียวข้น เนื้อของน้ำตาลอ้อยจะให้ความละเอียด ละลายง่าย มีสีน้ำตาลอ่อนๆ หรือบางทีก็จะเคียวจนมีสีน้ำตาลแดง รสชาติหวานหอม มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ เมื่อนำไปปรุงอาหารจะให้กลิ่นที่หอมยวนใจแบบที่น้ำตาลชนิดอื่นไม่สามารถให้ได้ สามารถนำไปทำอาหารได้หลายเมนู ทั้งเมนูคาว เช่น ปลาตะเพียนต้มเค็ม พะโล้ ปรุงใส่ในซุปแกงฮังเล ต้มฟักหวาน หรือนำไปปรุงเป็นน้ำยำ ผสมทำน้ำปลาหวาน และเมนูหวาน เช่น ขนมนางเล็ด ขนมกระยาสารท ขนมเข่ง ขนมต้ม ขนมดอกจอก ขนมข้าวเหนียวหัวหงอก ขนมข้าวเหนียวแดง
น้ำตาลมะพร้าว
เป็นน้ำตาลที่ผลิตจากน้ำหวานของช่อดอกของต้นมะพร้าว มีรสชาติหวานหอมมันเป็นเอกลักษณ์ของมะพร้าว นิยมนำมาใช้ในการทำขนมไทย เช่น ข้าวเหนียวทุเรียน น้ำกะทิลอดช่อง แกงบวดฟักทอง กรอบเค็ม ขนมตาหยาบ ขนมถ้วยใบเตย ไส้ข้าวเกรียบปากหม้อ และเมนูคาว เช่น ปลาทูซาเตี๊ยะ พะแนง
น้ำตาลกรวด
น้ำตาลกรวดเป็นน้ำตาลที่อาจจะไม่ได้นิยมใช้ในครัวเรือนมากนัก เนื่องจากรสชาติหวานอ่อน ไม่ค่อยใช้ปรุงอาหารทั่วไป แต่จะค่อนข้างเหมาะกับเมนูที่ต้องใส่ระยะเวลาทำนานๆ หรือตุ๋นนาน เช่น ใช้เชื่อมผลไม้ ตุ๋นรังนก ต้มยาจีน ซุปก๋วยเตี๋ยว พะโล้ เพราะจะทำให้ซุปใส
5 สมุนไพรจีน ยอดฮิต แนะวิธีเลือกยาจีนอย่างไร ให้ได้ผลดีที่สุด ?
น้ำตาลไอซิ่ง
เป็นน้ำตาลที่เกิดจากการลดน้ำตาลทรายขาวผสมของแป้งข้าวโพดหรือแป้งมันสําปะหลัง มีคุณสมบัติละลายน้ำดี รสชาติหวานอ่อนๆ ไม่แหลมแหลมเหมือนน้ำตาลทรายขาว เนื่องจากมีการผสมแป้งมาแล้ว ไม่นิยมใช้ปรุงอาหารแต่ใช้โรยหน้าขนมหรือเบเกอรี่
น้ำตาลก้อน
เป็นน้ำตาลทรายขาวที่อัดก้อนแบบสี่เหลี่ยม หยิบใส่ง่าย นิยมใช้กับเมนูเครื่องดื่มร้อน เช่น ชา กาแฟ
ถึงแม้ว่าจะเรียกน้ำตาลเหมือนกัน แต่ชนิดน้ำตาลและคุณสมบัติในการใช้งานทั้งกลิ่น สี และรสชาติก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นสำหรับผู้บริโภคก็ควรเลือกใช้น้ำตาลให้เหมาะสม และควรทานอย่างพอดีๆ ไม่ควรทานมากจนเกินไป เพราะอาจเสี่ยงต่อการสะสมของไขมันได้ เสียงต่อโรคต่างๆ ได้
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
7 สาเหตุโรคเบาหวาน ระดับของโรคเบาหวาน มีอะไรบ้าง?
4 โทษของน้ำตาล อันตรายที่มากับรสหวาน ควรหวานแค่ไหน ถึง (พอ) ดีต่อร่างกาย
ผลไม้น้ำตาลสูง ยิ่งกินยิ่งอ้วน ลดน้ำหนัก เบาหวานต้องหลีกเลี่ยง