ผักน้ำตาลสูง แม้จะเป็น “ผัก” ชนิดของอาหารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ยิ่งกิน ยิ่งดี แต่ทุกคนทราบหรือไม่คะว่าสำหรับผู้ป่วยเบาหวานนั้น การกินผัก ไม่ได้เหมือนกับคนทั่วไปค่ะเพราะในผักนั้นมีระดับน้ำตาลเช่นเดียวกัน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการระมัดระวังในการเลือกรับประทานผักจึงสำคัญมาก ๆ เพราะอาจทำให้ภาวะอาการของผู้ป่วยกำเริบได้นั่นเองค่ะ วันนี้ I-Kinn จึงนำผัก 5 ชนิดที่ผู้เป็นโรคเบาหวานควรเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยมาฝากกันค่ะ
ผักน้ำตาลสูง คืออะไร อันตรายไหม กินอย่างไรให้ปลอดภัย?
หลาย ๆ คนมักจะเคยได้ยินกันมาว่า ผักมีประโยชน์ต่อร่างกายและดีต่อผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก จึงทำให้หลาย ๆ คนหันมากินผักมากขึ้น แต่! ไม่ใช่ผักทุกชนิดจะถือว่าดีต่อร่างกายนะคะ เพราะแม้ว่าผักจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ แต่ในผักบางชนิดกลับมีแป้งและน้ำตาลที่สูง เมื่อกินเข้าไปแล้วก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้นได้ในผู้ป่วยเบาหวาน รวมถึงชาวลดน้ำหนักก็ต้องคอยระวังด้วยนะคะ เพราะการกินผักน้ำตาลสูงและแป้งสูงไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักเราลงง่าย ๆ แน่นอนค่ะ ซึ่งจะมีผักชนิดไหนบ้างเรามาติดตามไปพร้อม ๆ กันค่ะ
ทำไมผู้ป่วยโรคเบาหวานจึงจำเป็นต้องเลือกทานผัก
โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่มีน้ำตาลในเลือดสูง ทำให้ต้องหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง อย่าง น้ำหวาน ขนมหวาน ยาชูกำลัง และแอลกอฮอลล์ รวมถึงต้องดูแลในเรื่องของอาหารอย่างระมัดระวังไม่เว้นแม้แต่ประเภทคาร์โบไฮเดรตในแป้งด้วย ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงยังส่งผลต่อความเครียด การตั้งครรภ์ การมีประจำเดือน รวมถึงการขาดการออกกำลังกายได้อีกด้วย
ผัก 5 ชนิดที่มีน้ำตาลสูง ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลี่ยง
เป็นที่ทราบกันดีว่าผักนั้นมีหลายชนิด ซึ่งมีหลัก ๆ 5 ชนิดด้วยกันที่มีค่าน้ำตาลสูงและผู้ป่วยเบาหวานควรระวังค่ะ นั่นคือ..
1.มันฝรั่ง
มันฝรั่ง ถือเป็นผักมีแป้ง แม้ว่าจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่าง โพแทสเซียม, แมกนีเซียม และไฟเบอร์ แต่ในมันฝรั่งอบ 156 กรัม มีน้ำตาลอยู่ 2.7 กรัม รวมถึงแคลอรี่ 145 กิโลแคลอรี่ กินแล้วมีส่วนทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วได้ค่ะ
2.บีทรูต
บีทรูต เป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่มีทั้งน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตสูง โดยบีทรูตต้มประมาณครึ่งถ้วยตวง มีน้ำตาลอยู่ถึง 7 กรัม ซึ่งแม้ว่าบีทรูตจะมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม และแคลเซียม แต่ก็ต้องคอยระวังน้ำตาลด้วยนะคะ
3.ถั่วลันเตา
อีกหนึ่งผักมีแป้งอย่าง ถั่วลันเตาต้ม 1 ถ้วยตวง มีไฟเบอร์ 8.8 กรัม แต่ในขณะเดียวกันก็มีน้ำตาลสูงถึง 9.5 กรัมด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากจะรับประทานถั่วลันเตา ต้องทานอย่างพอดีนะคะ เพราะอย่างไรแล้วในถั่วลันเตาก็มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, โพแทสเซียม, โฟเลต, ไนอะซิน, ไรโบฟลาวิน, ไทอามีน รวมถึงวิตามินเอ, วิตามินบี 6, วิตามินซี และวิตามินเคค่ะ
4.ข้าวโพด
ข้าวโพดก็จัดว่าเป็นผักมีแป้งค่ะ ซึ่งในข้าวโพดนั้นมีทั้งน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตที่สูง โดยข้าวโพด 1 ถ้วยตวง มีน้ำตาลสูงถึง 29 กรัมเลยทีเดียว ซึ่งหากผู้ป่วยเบาหวานกินเข้าไปแล้วก็จะมีแนวโน้มทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นได้ค่ะ และแม้ว่าข้าวโพดจะอุดมไปด้วยวิตามินเอ, โพแทสเซียม, ฟอสฟอรัส, แมกนีเซียม และโฟเลต ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ก็ต้องคอยระวังน้ำตาลในข้าวโพดด้วยเช่นกัน ต้องกินอย่างพอดีนะคะ
5.แคร์รอต
แคร์รอต เรียกได้ว่าเป็นผักอีกหนึ่งประเภทที่มีน้ำตาลสูงค่ะ โดยแคร์รอตดิบ 1 หัวกลาง มีน้ำตาลประมาณ 5 กรัม รวมถึงแคลอรี่ 31 กิโลแคลอรี่ ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นโรคเบาหวาน หรือกำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก ต้องคอยระวังการบริโภคแคร์รอตให้ไม่มากจนเกินไปด้วยนะคะ แต่อย่างไรแล้ว แคร์รอตก็ถือได้ว่ายังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอยู่ค่ะ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรคเบาหวานจะเป็นโรคเรื้อรัง แต่ผู้ป่วยสามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ เพียงแค่ใส่ใจ สุขภาพ หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และที่สำคัญ ต้องใส่ใจในการเลือกชนิดอาหารและวิธีการปรุง รับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่พอเหมาะ เพียงเท่านี้ “เบาหวาน” ก็ไม่ใช่โรคที่น่าหนักใจอีกต่อไปค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ผักไฮโดรโปนิกส์ VS ผักออแกนิค แบบไหนปลอดภัยกว่ากัน
กินผักเยอะเกินไป อันตรายไหม ส่งผลเสียต่อร่างกายหรือเปล่า
ผักอบกรอบมีประโยชน์จริงไหม กินเพื่อลดน้ำหนักได้จริงหรือเปล่า?