รู้มั้ยผักที่ห้ามกินดิบมีอะไรบ้าง? การทานผักสด ๆ เป็นสิ่งที่ดีเพราะช่วยให้เราได้รับสารอาหาร วิตามิน และเกลือแร่ได้เต็มที่โดยไม่ผ่านความร้อน แต่ว่าก็มีผักบางชนิดที่ไม่ควรกินดิบอยู่เหมือนกัน มีอะไรบ้างต้องมาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
รู้ไว้ผักห้ามกินดิบมีอะไรบ้าง?
1.ถั่วฝักยาว
ผักแกล้มยอดฮิตที่หลายคนมักจะนิยมนำมาทานคู่กับอาหารรสจัดจำพวก ลาบ หลู้ ส้มตำ ฯลฯ แต่ว่าผักชนิดนี้ควรจะทานสุก 100 % เท่านั้นเนื่องจากมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และมีเทนอยู่เป็นจำนวนมาก ส่งผลทำให้เกิดกรดเกินในกระเพาะอาหารทำให้อาการท้องอืด ในบางรายอาจเกิดอาการท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน และเวียนหัวร่วมด้วยได้ และหากทานแบบเคี้ยวไม่ละเอียดก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาอุดตันในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วยค่ะ
2.กะหล่ำปลี
หากใครรู้ตัวว่ากำลังทานกระหล่ำปลีดิบอยู่ให้หยุดทานทันทีเลยนะคะ! เพราะในกะหล่ำปลีดิบจะมีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ที่เมื่อทานเข้าไปสารตัวนี้จะเข้าไปขัดขวางการดูดซึมสารอาหารบางชนิด ทำให้ร่างกายดึงไอโอดีนมาใช้ได้ไม่เต็มที่ ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนในต่อมไทรอยด์ และยังส่งผลทำให้ท้องอืดท้องเฟ้ออีกด้วย
3.ถั่วงอก
ถั่วงอกก็เป็นผักอีกชนิดนึงที่ถูกนำมาทานแบบสด ๆ ซึ่งหากต้องการทานดิบก็ยังสามารถทานได้ค่ะ แต่หากทานเยอะ ๆ ก็จะได้รับสารโซเดียมซัลไฟต์ หากคนทานไปแล้วเกิดอาการแพ้ก็จะทำให้มีอาการคลื่นไส้ หายใจติดขัด ความดันโลหิตต่ำ ปวดท้อง ท้องเสีย บางคนที่มีอาการแพ้รุนแรงอาจจะมีอาการช็อก หมดสติและอาจเสียชีวิต
4.บรอกโคลี
บรอกโคลีเป็นผักที่มีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ที่ส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถดึงไอโอดีนมาใช้ได้เต็มที่ และยังส่งผลให้เกิดอาการท้องอืด แต่สารชนิดนี้จะสลายไปหากผ่านความร้อน ดังนั้นควรปรุงให้สุกก่อนค่อยกิน
5.มันสำปะหลัง
6.ผักโขม
7.หน่อไม้
8.มันฝรั่ง
ในหัวมันฝรั่งมีสารไกลโคแอลคาลอยด์ (Glycoalkaloid) ซึ่งเป็นสารพิษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในมันฝรั่งซึ่งเมื่อทานเข้าไปจะเข้าไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์โคลีนเอสเตอเรส (Cholinesterase) ทำให้เกิดอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ในบางรายอาจก่อให้เกิดอาการใจสั่น หัวใจเต้นผิดจังหวะนำไปสู่อาการเสียชีวิตได้ อาการนี้สามารถเกิดได้กับทั้งคนและสัตว์ ดังนั้นควรนำมันฝรั่งไปปรุงให้สุกเสมอกันทั้งชิ้นก่อนทานเท่านั้น ไม่สามารถทานแบบกึ่งสุกกึ่งดิบได้อย่างเด็ดขาด