ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและระบบการแพทย์แบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เทรนด์การดูแลสุขภาพไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ดังนั้น ในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ประชากรโลกจะมีอายุยืนยาวกว่าคนในสมัยยุคก่อน และประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเป็นที่เรียบร้อยเฉกเช่นเดียวกับประชากรโลกในประเทศอื่น ๆ ที่กำลังจะตามมาติด ๆ กัน ทำให้สถานการณ์ของอุตสาหกรรมอาหารสุขภาพ เริ่มมีบทบาทอย่างมากในกลุ่ม Aging Society โดยมีการคาดการณ์ว่า ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จะเพิ่มขึ้นจาก 900 ล้านคนในปี 2015 เป็น 2,000 ล้านคน ในปี 2050 หรือคิดง่าย จะขึ้นจากร้อยละ 12 เป็นร้อยละ 22 ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด อ่านถึงตรงนี้ ไม่ธรรมเลยใช่ไหมค่ะ ส่วนด้านประเทศไทยเรา ในปี 2565 คาดการณ์ว่า จะมีผู้สูงอายุวัย 70 ปี มากถึง 4.6 ล้านคน ด้วยจำนวนที่มากขนาดนี้ จึงเป็นเหตุผลนำมาซึ่งความต้องการด้านโภชนาการที่เหมาะกับสุขภาพ วัย และที่สำคัญ โรคประจำตัว ! ซึ่งจะต้องลดความหวาน เค็ม มัน เสริมในเรื่อง โปรไบโอติก เติมในเรื่อง แคลเซียม และต้องย่อยง่าย ด้วยสิ !
อาหารสุขภาพยังอยู่อีกยาวยาว
การรับประทานอาหารของคนไทยส่วนใหญ่ เน้นในเรื่องสุขภาพ ต้องคลีน ต้องสร้างสรรค์ประสบการณ์ในการรับประทาน ดังนั้นธุรกิจอาหารจึงต้องพลิกแพลงในศาสตร์ชั้นสูงสร้างสรรค์เมนูอาหาร มีเสน่ห์ชวนรับประทาน และให้ความละเมียดทางใจ มากกว่าแค่รสชาติที่ปลายลิ้น !
ทีนี้ เรามาดูกันว่า ในยุคที่เรียกว่า New Normal 2020 นี้ กระแสอาหารสายคลีนนั้น จะมีอะไรบ้าง ? เรามาดูกัน
-
ลดน้ำตาล แต่ไม่ลดหวาน
ทุกคนทราบกันดีว่า น้ำตาลคือวายร้ายทำลายสุขภาพ ทำให้วงการอาหารพยายามหาทางเลือกใหม่ที่สามารถให้ความหวานแทนน้ำตาล แต่ไม่ทำร้ายสุขภาพ เช่น สารสกัดจาก หญ้าหวาน อินทผาลัม ฯลฯ ในขณะเดียวกัน ก็ใช้งายวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม สร้างความหวานที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภค ที่ยังต้องการความหวาน เพื่อสุนทรีย์ในการรับประทานอาหารอยู่ เช่นการเปลี่ยนโครงสร้างอนุภาคของน้ำตาล เพื่อให้ละลายบนลิ้นได้เร็วกว่าเดิม ซึ่งผู้บริโภคจะได้รับรสชาติความหวานเท่าเดิม อาหารมีรสชาติเหมือนเดิม 100% แต่สามารถลดน้ำตาลในการผลิตได้มากถึง 40%
-
โปรตีนบาร์
ถือเป็นอาหารสแนคกิ้ง ที่ตอบโจทย์คนยุคนี้ ผู้บริโภคยุคใหม่ มองหาของทานที่ทำให้อิ่มท้อง อิ่มไว และต้องมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย แถมต้องไม่ทำลายสุขภาพ ดังนั้น เทรนด์ขนมขบเคี้ยวกำลังจะเปลี่ยนโฉมบทบาท จากขนมขบเคี้ยวที่อุดมไปด้วย น้ำตาล คาร์โบไฮเดรต โซเดียม ไขมัน ผู้บริโภคยุคใหม่ หันมานิยมทานขนมขบเคี้ยว Snacking ที่มีคุณค่าทางโภชนาการแทน ยกตัวอย่างที่เห็นชัดในซุปเปอร์มาร์เก็ตปัจจุบัน คือ “โปรตีนบาร์” (Protein Bar) ซึ่งกลายเป็นอาหารว่างยอดฮิตสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะแคลอรี่ต่ำ ไม่หวาน แถมได้สารทางอาหารครบอีกด้วย
-
เนื้อสัตว์เทียม จากโปรตีนพืช
เทรนด์นี้เริ่มฮิตมาจากฝั่งอเมริกา เป็นการปรุงอาหารด้วยเนื้อสัตว์เทียมจากพืช เพื่อเอาใจเทรนด์คนยุคใหม่ที่ลดการทานเนื้อ แต่ก็ไม่ใช่มังสาวิรัติ ดูเหมือนเทรนด์นี้มีแนวโน้มการเติบโตอย่างรวดเร็ว ถามว่า อร่อยไหม คงต้องบอกว่าอร่อยทดแทนเนื้อได้ดีทีเดียว มีคอเลสเตอรอลต่ำกว่าเนื้อสัตว์ทั่วไป ได้ยินมาว่าฟาสต์ฟู้ดหลายแห่งในอเมริกา มีแฮมเบอร์เกอร์เนื้อเทียมจำหน่าย แถมยังขายดีมากอีกด้วย
-
แพ็คเกจย่อยสลายตามธรรมชาติ
โดยเฉพาะในสังคมไทยที่มีความเร่งรีบ ก่อให้เกิดร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดมากมายในย่านชุมชน ซึ่งปัญหาจากร้านอาหารเหล่านี้ คือ “ขยะ” และส่วนหนึ่งมาจากบรรจุภัณฑ์ที่ใส่อาหาร เช่น ส้อม มีด แก้ว ที่ผลิตจากพลาสติก โดยที่กระบวนการย่อยสลายของวัสดุเหล่านี้ ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะหมดไป นักออกแบบชาวอิตาเลี่ยน ชื่อ Si,one Caronni, Paolo Stefano Gentile , Petro Gaeli ได้มองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้มีไอเดียทำแพจเกจจิ้งจากเปลือกมันฝรั่ง ภายใต้แนวคิด “จากต้นกำเนิดสู่ธรรมชาติ” ส่วนในเมืองไทย ก็สามารถนำไอเดียนี้มาต่อยอดได้เช่นกัน คือการนำเอาใบตอลมาห่อขนม ใส่อาหาร หรือ กระบอกไม้ไผ่มาใส่น้ำดื่ม ผู้เขียนเคยเห็นแบรนด์หนึ่งเป็นร้านไอศกรีม นำกะลามะพร้าวมาใส่ไอศกรีมกะทิสด เป็นไอเดียกิ๊บเก๋มากค่ะ แถมยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ชนิด Back to nature ได้อย่างลงตัว
-
อาหารสำหรับผู้สูงอายุและโภชนาการแบบเฉพาะบุคคล
อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ประชากรโลกเป็นสังคมสูงอายุ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นทุกปี ส่งผลให้อุตสาหกรรมอาหารจำเป็นต้องผลิตอาหารเพื่อตอบสนองกลุ่มผู้สูงอายุ และแน่นอน อาหารจำต้องมีลักษณะที่ย่อยง่าย เคี้ยวง่าย กลืนง่าย รสชาติไม่จัดจ้าน อ่อนรสชาติ (หวาน เค็ม เปรี้ยว) มีใยอาหาร มีโปรตีน แคลเซียมที่ร่างกายผู้สูงอายุจำต้องได้ครบถ้วน อีกทั้ง มีการคาดการณ์ว่าตลาดอาหารพร้อมทานเพื่อสุขภาพของโลกจะมีมูลค่าประมาณ 10,551 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 โดยกลุ่มที่จะมีบทบาทเพิ่มเข้ามาคือกลุ่ม Millennial อายุ 18 – 34 ปี ที่รักความเป็นกระแสคนรักสุขภาพและตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรอาหารรวมถึงสิ่งแวดล้อม และนั่นคือข้อต่อไปที่จะกล่าวถึง
-
ลดขยะอาหารที่เหลือทิ้ง
มีรายงานสำรวจพบว่า ในแต่ละปีทั่วโลก มีขยะอาหารเหลือทิ้งมากถึง 1,300 ล้านตัน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 2,200 ล้านตัน ภายในปี 2025 โดยข้อมูลบ่งชี้ว่า เป็นขยะอาหารจากผักผลไม้เน่าเสียมากถึง 44% ทำให้เกิดเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม ด้วยแคมเปญ “ลดขยะเหลือทิ้งจากอาหาร” ซึ่งในปัจจุบัน จะสังเกตเห็นว่า มีเครื่องย่อยเศษอาหารเป็นปุ๋ย กันอยู่หลายแบรนด์มากมาย เป็นตัวช่วยทำของเสียไม่ให้เสียของ แถมยังทำให้ต้นไม้สวนหน้าบ้านเราสวยงาม น่าอภิรมย์ได้อีกด้วย
เทรนด์อาหารคลีน และธุรกิจเพื่อสุขภาพสามารถทำได้มากกว่าเพียง อาหาร ยา เพราะก็มีผู้อ่านบางท่านก็ไม่ชอบทานอาหารคลีน ทำให้ในปัจจุบัน หมวดอาหารเสริม ได้รับความสนใจมากขึ้น ซึ่งไม่ใช่ตอบโจทย์เฉพาะผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ หรือ ผู้สูงอายุ เท่านั้น ยังรวมถึงผู้ที่สนใจอยากมีสุขภาพดีทุกเพศและทุกวัยอีกด้วย ทำให้อาหารเสริมเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในสังคมไทยยุคนี้ เพื่อให้มีชีวิตที่ยืนยาวอย่างยั่งยืนนั่นเอง พบกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ
……….
(เครดิต : www.everydayhealth.com, 10 healthy food trends to expect in 2020, krungsri.com, bkkpaperbox.com, www.i-kinn.com)
#KINN_Holistic_Healthcare