อาหารบางชนิดหากมองอย่างผิวเผิน อาจจะคิดว่าทานคู่กันได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ความจริงแล้วการนำมาทานคู่กันอาจจะทำให้เกิดอันตรายอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้นจึงควรรู้ไว้และต้องระวังเวลาทานให้ดีค่ะ
อาหารห้ามกินคู่กัน หากพลาดอาจถึงตาย
1.ทุเรียนและแอลกอฮอล์ ห้ามทานคู่กัน
เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ชนิดร้อน และแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่ออกฤทธิ์ร้อนเช่นกัน เมื่อทานทั้งคู่เข้าไปพร้อมกันจะส่งผลให้ร่างกายได้รับความร้อนมากจนเกินไป นอกจากนี้ในทุเรียนยังมีสารกำมะถันอยู่สูงและสารชนิดนี้มักจะละลายตัวได้เร็วในแอลกอฮอล์ เมื่อละลายตัวเร็วก็ทำให้ซึมเข้ากระแสเลือดได้เร็ว ระดับน้ำตาลในเลือดก็ขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว อาจส่งผลให้ร่างกายร้อน มีอาการหน้าแดงตัวแดง บางเคสอาจจะมีอาการชา วิงเวียนศีรษะและอาเจียน หากนำส่งโรงพยาบาลช้าสามารถทำให้เสียชีวิตได้
2.ทุเรียนและลำไย ห้ามทานคู่กัน
เหตุผลคล้าย ๆ กับด้านบนค่ะ เพราะผลไม้ทั้งคู่เป็นผลไม้ฤทธิ์ร้อน และมีน้ำตาลสูง เมื่อทานร่วมกันจะทำให้ร่างกายเกิดร้อนในได้ง่าย และเสี่ยงต่อน้ำตาลในเลือดสูงจนเกินไป ส่งผลเสียต่อระบบร่างกายและอันตรายต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
3. ทุเรียนและน้ำอัดลม ห้ามทานคู่กัน
ทั้งคู่เป็นอาหารที่มีน้ำตาลสูง การที่ร่างกายได้รับน้ำตาลมากจนเกินไปเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเบาหวาน
4. นมและผัก ห้ามทานคู่กัน
ผักที่มีไฟเบอร์สูง (ใยอาหาร) และนมเป็นอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อาหารทั้งสองชนิดนี้หากทานร่วมกันจะส่งผลให้ไฟเบอร์จากผักเข้าไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับไม่เพียงพอ ทางที่ดีไม่ควรทานเมนูนมร่วมกับเมนูผักจะดีที่สุด
อาหารกากใยสูง ช่วยขับถ่าย ลดน้ำหนัก หน้าท้องยุบ
5.กล้วยและนม ห้ามทานคู่กัน
หลาย ๆ บ้านมักจะทานกล้วยกับนมเป็นอาหารเช้า นั่นเป็นสิ่งที่ผิดมาก ๆ เพราะกล้วยและนมเป็นอาหารที่ดูเหมือนจะเป็นมื้อเบา ๆ แต่ย่อยยากมาก ทำให้กระเพาะอาหารทำงานหนักเกินความจำเป็น หากต้องการทานกล้วยกับนมจริง ๆ แนะนำให้เลี่ยงนมวัว แต่ทานนมจากพืชแทน
กล้วยทําให้อ้วนไหม สรุปกินกล้วยช่วยลดน้ำหนักได้จริงหรือ?
6.เมนูเนื้อและไอศกรีม ห้ามทานคู่กัน
หลาย ๆ คนเวลาไปทานอาหารนอกบ้าน หลังมื้ออาหารก็มักจะตบท้ายมื้ออาหารด้วยของหวานสุดฮิตอย่างไอศกรีม แต่หากอยากรักษาสุขภาพของตัวเองให้ดี แนะนำว่าคราวหน้าให้หลีกเลี่ยงดีกว่าค่ะ เพราะเมนูเนื้อนั้นใช้เวลาย่อยค่อนข้างนานและกระเพาะอาหารต้องใช้พลังงานเวลาย่อยสูง และเมื่อทานไอศกรีมเพิ่มเข้าไปก็ยิ่งทำให้กระเพาะทำงานหนักยิ่งขึ้นไปอีก เพราะไอศกรีมมีฤทธิ์เย็นและมีส่วนประกอบของนมและน้ำตาล ซึ่งทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานหนักมากขึ้น นอกจากนี้ความเย็นจากไอศกรีมยังทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ไม่เต็มที่อีกด้วย
7.ปูและไอศกรีม ห้ามทานคู่กัน
อาหารห้ามกินคู่กันที่ควรระวังคือ ปูและไอศกรีมค่ะ เพราะปูเป็นอาหารที่มีฤทธิ์เย็น และไอศกรีมก็เย็น เมื่อทานคู่กันจะทำให้ร่างกายเย็นจนเกินไป ทำให้เกิดอาการท้องเสียง่าย
8.กล้วยและเผือก ห้ามทานคู่กัน
เพราะทั้งคู่เป็นอาหารประเภทแป้ง การทานแป้งเข้าไปเยอะ ๆ จะทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการท้องอืดง่าย
ประโยชน์กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม กล้วยไข่ กล้วยอันไหนดีต่อสุขภาพมากที่สุด
9.เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และอาหารรสเผ็ดจัด ห้ามทานคู่กัน
เพราะอาหารรสจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งคู่มีฤทธิ์ร้อน ซึ่งส่งผลให้ระบบไหลเวียนของเลือดทำงานเร็วเกินไป หากเป็นผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงอาจจะไม่เป็นไร แต่หากมีความเสี่ยงหรือป่วยเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคภูมิแพ้ ควรหลีกเลี่ยง
10.น้ำผึ้งและชาร้อน / น้ำร้อน
น้ำผึ้งเป็นสารให้ความหวานตามธรรมชาติที่มีประโยชน์สูง มีสารอาหารและวิตามินมากมายเช่น กลูโคส ฟรุกโตส ลีวูโลส กรดกลูโคนิก เอนไซม์ วิตามิน A วิตามิน B2 วิตามิน B3 วิตามิน B5 วิตามิน B6 วิตามิน C แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม สังกะสี ฟอสฟอรัส และโซเดียม ซึ่งสารอาหารเหล่านี้หากโดนความร้อนจะทำให้หายไปทั้งหมด ดังนั้นหากต้องการดื่มน้ำผึ้งเพื่อได้รับประโยชน์สูงสุดควรทานผสมน้ำในอุณหภูมิห้อง
11.เครื่องดื่มกาเฟอีนและไข่ต้ม ห้ามทานคู่กัน
เพราะสารคาเฟอีนจะเข้าไปขัดขวางสารซัลเฟอร์ในไข่ต้ม ทำให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้น้อยลง
12.เบคอนและผักโขม ปวยเล้งห้ามทานคู่กัน
ผักโขมเป็นผักที่มีประโยชน์สูงเต็มไปด้วยวิตามิน ธาตุเหล็ก และแคลเซียมที่ดีต่อร่างกาย แต่ในเบคอนจะมีกรดฟอสฟอริกที่หากทานพร้อมกัน กรดฟอสฟอริกจะขัดขวางกระบวนการดูดซึมสารอาหาร และจะเปลี่ยนจากสารที่มีประโยชน์กลายเป็นสารก่อมะเร็ง
13. เมนูของทอดและแตงโม
เพราะเมนูของทอดเป็นเมนูที่อมน้ำมัน และแตงโมเป็นผลไม้ฤทธิ์เย็นและเต็มไปด้วยน้ำ เมื่อทานเข้าไปพร้อมกันจะทำให้ท้องเสียถ่ายเหลวได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เนื้อจากพืช (Plant-Based) มีประโยชน์จริงชัวร์ VS มั่วนิ่ม ?
ชอบกินของทอด เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง ?
กินหมูกระทะยังไงให้สุขภาพดี ไม่อ้วน ไม่เสี่ยงมะเร็ง ห่างไกลโรค