คนไทยเราส่วนใหญ่ชอบอะไรเผ็ด ๆ อาหารไทยหลายเมนูอย่างน้อยจะต้องมีความเผ็ดขึ้นมาอยู่บ้างจนเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งสำหรับอาหารไทยที่คนต่างชาติยกให้ ซึ่งในประเทศเราก็มีพริกหลากหลายชนิดที่เรานิยมนำมาประกอบอาหารและเป็นที่รู้จักอย่างมากนั่นก็คือ “พริกขี้หนู” ที่ไม่ได้มีดีแค่เผ็ดอย่างเดียว ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ประโยชน์ของพริกขี้หนู ว่ามีอะไรบ้างที่เป็นประโยชน์กับสุขภาพร่างกาย พร้อมข้อควรระวังที่ต้องรู้สำหรับการทานพริกขี้หนู
พริกขี้หนู ต้นกำเนิดมาจากไหน?
พริกขี้หนู (Bird’s eye chili) ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Capsicum annuum หรือ Capsicum frutescens เชื่อว่ามีต้นกำเนิดมาจากอเมริกากลางหรืออเมริกาใต้ ซึ่งจะคล้ายคลึงกับพริกชนิดอื่น ๆ ที่มีจุดเริ่มต้นในประเทศแถบทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากการนำเข้าพริกโดยพ่อค้าชาวสเปนกับชาวโปรตุเกส ในปัจจุบัน พริกขี้หนูได้รับการปลูกในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีจุดเด่นคือมีเม็ดเล็กแต่มีรสเผ็ดจัด มักจะนำไปใช้เป็นเมนูต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะอาหารไทย
7 ประโยชน์ของพริกขี้หนู เผ็ดแต่ดีต่อสุขภาพร่างกาย
พริกขี้หนู นอกจากจะเติมความเผ็ดให้กับมื้ออาหารของเราแล้ว ก็มีประโยชน์ต่าง ๆ มากมายที่ดีต่อสุขภาพโดยบางทีเราอาจยังไม่รู้ ประโยชน์ของพริกขี้หนู จะมีด้วยกันดังนี้
1. เผ็ด แต่ดีต่อระบบย่อยอาหาร
พริกขี้หนูจะมีแคปไซซิน (Capsaicin) เป็นสารประกอบที่เราจะอธิบายเพิ่มเติมในแต่ละประโยชน์ ซึ่งประโยชน์ของแคปไซซินคือจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างกรดในกระเพาะและเอนไซม์การย่อยอาหารที่จะทำให้การย่อยอาหารได้ดีขึ้น บรรเทาปัญหาทั่วไปเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น อาการท้องอืด ท้องผูก เป็นต้น
2. ดีกับระบบเผาผลาญ มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก
สารแคปไซซิน อาจมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งนั่นคือการเพิ่มการผลิตความร้อนในร่างกาย (Thermogenic) ซึ่งจะเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีส่วนเร่งกระบวนการเผาผลาญ ส่งผลให้มีการเผาผลาญแคลอรี่ได้ดียิ่งขึ้น และอาจมีส่วนช่วยลดความอยากอาหารได้ ทำให้มีส่วนช่วยลดปริมาณแคลอรี่จากอาหารที่ทานเข้าไป มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนักได้ (เคียงข้างกับการทานอาหารที่หลากหลาย ลดอาการที่มีไขมันสูงและการออกกำลังกาย)
3. เป็นประโยชน์กับสุขภาพหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด
การทานพริกขี้หนูอาจมีส่วนช่วยเกี่ยวกับสุขภาพหัวใจ เพราะแคปไซซินในพริกจะมีส่วนให้เกิดการขยายของหลอดเลือด มีส่วนทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และความดันโลหิตที่สูง อาจมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลหรือไขมันเลว LDL หรือลดระดับไตรกลีเซอไรด์ (Triglycerides) ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
4. มีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ประโยชน์ของพริกขี้หนูอย่างหนึ่งคืออาจมีคุณสมบัติต้านเชื้อจุลินทรีย์ อาจมีส่วนช่วยต่อสู้กับแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ และด้วยการที่พริกขี้หนูมีวิตามินซีสูง จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย
5. มีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวด
แคปไซซินในพริกขี้หนู มีการศึกษาว่าอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการปวด เมื่อเราทานพริกขี้หนู แคปไซซินจะไปทำกฏิกิริยากับตัวรับความรู้สึกเจ็บปวด (Pain receptors) ซึ่งจะทำให้ความรู้สึกเจ็บลดลงชั่วคราว ทำให้เป็นพริกอย่างหนึ่งที่มีส่วนช่วยจัดการกับอาการโรคข้ออักเสบ อาการปวดเมื่อยต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
6. มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ
อย่างที่ได้อธิบายกันไปว่าแคปไซซินคือสารประกอบในพริกอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งประโยชน์อีกอย่างนั่นก็คือจะมีส่วนช่วยต้านการอักเสบ ซึ่งเป็นอาการและสาเหตุอย่างหนึ่งของโรคไขข้อ รวมถึงโรคในระบบย่อยอาหาร
7. อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก
ผู้เขียนเองเวลาทานพริกทีไรน้ำมูกก็ไหลทุกที ไม่ต้องถึงขั้นพริกขี้หนูก็แย่แล้ว แต่การที่น้ำมูกไหลก็ไม่ได้หมายความว่ามันแค่ไหลเฉย ๆ แคปไซซินที่มีอยู่ในพริกขี้หนูจะทำหน้าที่เป็นเหมือนยาแก้คัดจมูกที่ทำให้เสมหะเหลว ช่วยให้ขับออกจากทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น ซึ่งอาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการหวัด ไซนัส หรือโรคทางเดินหายใจได้
ข้อควรระวัง สำหรับการทานพริกขี้หนู
ประโยชน์ของพริกขี้หนูมีด้วยกันหลากหลายตามที่ได้อธิบายไป แต่ก็มีข้อควรระวังสำหรับการทานพริกขี้หนูด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียต่อร่างกาย สิ่งที่ควรระวังจะมีดังนี้
- อาจส่งผลให้กระเพาะอาหารเกิดการระคายเคืองได้ หากทานในปริมาณมากเกินไปหรือสำหรับคนที่ไม่ได้ทานอาหารเผ็ดเป็นประจำ รวมถึงคนที่มีอาการไวต่อกระเพาะอาหาร
- อาจเกิดอาการแพ้ บางคนอาจแพ้พริก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ เช่น คัน บวม หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
- อาจไม่เหมาะกับผู้ที่กำลังให้นมบุตร แคปไซซินอาจส่งต่อไปยังนมได้ อาจส่งผลค่อปัญหาผิวของเด็ก
ประโยชน์ของพริกขี้หนูมีด้วยกันหลายอย่าง ซึ่งสารประกอบบตัวเอกอย่างแคปไซซิน (Capsaicin) จะมีเป็นตัวสำคัญที่ทำให้ประโยชน์ของพริกโดดเด่นขึ้นมา โดยคนไทยเราคุ้นเคยกับพริกขี้หนูเป็นอย่างดีและเป็นพริกที่นิยมนำไปประกอบอาหารหลากหลายเมนู อย่างไรก็ตาม การทานพริกขี้หนูก็มีข้อควรระวัง ไม่ควรทานในปริมาณมากเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดอาการแพ้
References :
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC7969397/
https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC10574431/
อ่านบทความเพิ่มเติม :
9 ประโยชน์ของพริกหยวก ผักวิตามินซีสูง เหมาะทุกจานอาหาร
กินพริกน้ำปลาแบบไหนให้ปลอดภัย ลดการสะสมโซเดียม ถนอมไต
พริกหม่าล่า สมุนไพรจีนแก้หวัด ลดความดันโลหิต และแก้โลหิตจาง
Line Official: @kinnworldwide (มี@)
Shopee: KINN WORLDWIDE
Lazada: KINN WORLDWIDE
Facebook: KINN
Line Shopping: KINN