เต้าส่วนข้าวโพดมะพร้าวอ่อน หรืออีกชื่อที่หลายคนอาจเรียกว่า “ข้าวโพดเปียก” ซึ่งเป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่ทำได้ง่าย ด้วยส่วนผสมที่ไม่เยอะและขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป ซึ่งขนมหวานนี้จะมีรสชาติหอมหวานของข้าวโพดและมะพร้าว บวกกับการราดด้วยน้ำกะทิข้นมีรสเค็มปะแล่มนิดๆ ซึ่งบางบ้านก็จะปรับเปลี่ยนเพิ่มส่วนผสมใส่ตามความชอบเช่น เผือก ลูกเดือย หรือถั่วเขียวเลาะเปลือก ส่วนสูตรนี้ที่ได้มาจากคุณยายจะเน้นไปทางข้าวโพดค่ะ ซึ่งตอนเด็กๆดิฉันมักจะเรียกว่าขนมขี้มูกประจำ แต่ก็ชอบทานเพราะรสชาติและกลิ่นชวนทานมากกว่าชื่อที่เรียกอีกค่ะ งั้นเรามาดูส่วนผสม วิธีทำ และเคล็ดไม่ลับของคุณยายกันเลยค่ะ
กะทิลดน้ําหนัก กินแล้วผอม ควบคุมน้ำหนักได้ จริงหรือ?
สูตรเต้าส่วนข้าวโพด มะพร้าวอ่อน เมนูทำง่ายประโยชน์เพียบ
ส่วนผสม
- ข้าวโพดหวานต้ม 3 ฝัก
- มะพร้าวอ่อน 2 ลูก (เนื้อขูดเป็นเส้นและใช้น้ำ)
- แป้งมันสําปะหลัง 4 ช้อนโต๊ะ
- แป้งท้าวยายม่อมหรือแป้งท้าวก็ได้ค่ะ 4 ช้อนโต๊ะ
- กะทิ 250 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 80 กรัม
- ใบเตย 6 ใบ
- น้ำเปล่า
วิธีทำ
- นำข้าวโพดหวานดิบไปต้มให้สุกหรือถ้าใช้ข้าวโพดที่ต้มสุกแล้ว สามารถนำข้าวโพดไปฝานแล้วยีให้เม็ดข้าวโพดแตกจากกันเป็นเม็ดๆพักไว้
2. มะพร้าวอ่อนวันนี้เราจะใช้ทั้งเนื้อและน้ำ ชิมน้ำมะพร้าวด้วยนะคะเพราะถ้าน้ำมะพร้าวเปรี้ยวขนมเราจะไม่อร่อย นำมะพร้าวอ่อนขูดเนื้อให้เป็นเส้นๆพักไว้กับข้าวโพด
3. นำแป้งมันและแป้งท้าว เทรวมกันแล้วละลายน้ำเปล่า ถ้าใครหาแป้งท้าวยายม่อมได้ก็สามารถใช้ได้เลยนะคะ เพราะถ้าเราใช้แต่แป้งมันอย่างเดียวเต้าส่วนของเราก็จะข้นเหนียวมากและคืนตัวได้ง่ายค่ะ นำแป้งที่ละลายแล้วมากรองก่อน 1 รอบเพื่อให้แป้งที่เป็นเม็ดละลายไป
4. อย่าพึ่งตั้งไฟนะคะให้นำส่วนผสมน้ำมะพร้าวและน้ำเปล่าใส่หม้อ (ชิมน้ำที่ผสมก่อนใส่น้ำตาลเพราะน้ำมะพร้าวมีความหวานอยู่แล้ว ขนมจะได้ไม่หวานมากเกินไป) ตามด้วยน้ำตาลทรายและใบเตยมัดใส่ลงไปคนให้ส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ตั้งไฟเคี้ยวจนน้ำตาลละลาย
5. ตักใบเตยออกหรือใครจะเอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ นำข้าวโพดที่เราฝานไว้เทลงไปต้มกับน้ำเชื่อมแล้วชิมน้ำอีกรอบว่าหวานพอไหม ความหวานใส่ได้ตามความชอบเลยค่ะ
6. นำแป้งที่เราละลายและกรองแล้ว ก่อนเทคนอีกรอบกันแป้งนอนก้น และต้องรอให้น้ำร้อนจัดก่อนแล้วทยอยใส่แป้ง ไม่ใส่ทีเดียวหมดนะคะ ต้องใส่ไปคนไปให้แป้งกระจายตัวทั่วทั้งหม้อและต้องคนไปทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อนและไม่คืนตัวได้ง่าย
7. พอได้ความเหนียวตามที่เราต้องการและแป้งสุกใสกำลังดี นำมะพร้าวมาใส่ในขั้นตอนสุดท้ายคนให้เข้ากันปิดไฟยกลง เราใช้ความร้อนที่มีอยู่ทำให้มะพร้าวสุก มะพร้าวจะไม่เสีย พักในส่วนนี้ไว้ก่อน
8. ส่วนของน้ำกะทิราดเต้าส่วน นำกะทิกล่องใส่ในหม้ออีกใบ นำใบเตยมัดใส่ลงไปเพื่อเพิ่มความหอม ใส่เกลือให้กะทิเค็มปะแล่มๆแต่ไม่ต้องเข็มมาก ชิมรสชาติตามความชอบ
9. ตั้งไฟให้หัวกะทิร้อนจัดแต่ต้องไม่เดือด หมั่นคนเลื่อยๆไม่ให้กะทิเดือดข้างหม้อไม่เช่นนั้นกะทิจะแตกมัน รอจนกะทิร้อนจัดยกลงจากเตา ถ้าใครชอบกะทิข้นๆสามารถใส่แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งสาลีผสมน้ำ เมื่อได้รสชาติตามชอบก็พร้อมตักใส่จานราดหน้าขนมเต้าส่วนของเราแล้วจ้า
เคล็ด(ไม่)ลับ
- ใช้น้ำมะพร้าวเป็นส่วนประกอบเพราะจะเพิ่มความหอมหวานของขนมทำให้น่าทานมากยิ่งขึ้น
- ผสมแป้งมันกับแป้งท้าวจะทำให้ขนมคืนตัวได้ยาก เหนียวกำลังพอดี ถ้าใช้แป้งมันอย่างเดียวทำให้ขนมเหนียวข้นมากและจับตัวเป็นก้อน และต้องกรองแป้งที่ผสมน้ำแล้ว 1 รอบ จะทำให้แป้งไม่เป็นเม็ดๆ
- ต้องรอให้น้ำร้อนจัดก่อนแล้วทยอยใส่แป้ง ไม่ใส่ทีเดียวหมดนะคะ ต้องใส่ไปคนไปให้แป้งกระจายตัวทั่วทั้งหม้อและต้องคนไปทางเดียวกัน เพื่อไม่จับตัวเป็นก้อนและไม่คืนตัวได้ง่าย
- น้ำกะทิราดหน้าขนมเต้าส่วนต้องตั้งกะทิให้ร้อนจัดแต่ต้องไม่เดือดและหมั่นคนไปทางเดียวกันเพื่อไม่ให้กะทิข้างหม้อเดือดจัดและแตกมันจนไม่อร่อย
- ถ้าชอบน้ำราดหน้าขนมเหนียวๆข้นๆ ให้ผสมแป้งข้าวเจ้าหรือแป้งข้าวสาลีแต่ไม่ต้องเยอะนะคะ เพราะหัวกะทิข้นอยู่แล้ว
**ห้ามรับประทานข้าวโพดดิบเด็ดขาด เพราะจะทำให้ท้องอืด และเป็นผลเสียต่อร่างกายค่ะ**
………………….
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คอเลสเตอรอลในอาหารทะเล ชนิดไหนกินได้ ชนิดไหนต้องเลี่ยง
สูตรแฮชบราวน์ (hash brows) อาหารเช้าสไตล์อเมริกัน ทำง่ายอร่อยด้วย
Whatdapep
October 4, 2020น่ากินจังเลยครับ อ่านแล้วท้องเรียกน้ำย่อยเลยครับ …