หากพูดถึงการกินข้าว เชื่อว่าเราคุ้นเคยข้าวขาวกันเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม มีข้าวหลายประเภทที่สามารถเป็นตัวแทนของข้าวขาวได้ เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวกล้อง ข้าวหอมมะลิแดง รวมถึงข้าวบาร์เลย์ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับข้าวบาร์เลย์กัน แล้วข้าวบาร์เลย์ คืออะไร ข้าวบาร์เลย์มีสารอาหารอะไรบ้างที่ดีกับร่างกาย ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์มีอะไรบ้าง ข้าวบาร์เลย์ กินแทนข้าวได้ไหม ไปหาคำตอบด้วยกันครับ
ข้าวบาร์เลย์ คืออะไร
ข้าวบาร์เลย์ คือธัญพืชอย่างหนึ่งที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ซึ่งมีสารอาหารสำคัญมากมายที่ดีต่อร่างกาย โดยทั่วไปแล้วจะปลูกทั่วภูมิภาคที่มีสภาพอากาศอบอุ่นและเป็นธัญพืชที่มีการปลูกมาอย่างยาวนาน เหมาะสำหรับนำไปประกอบในกระบวนการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหมักเป็นเบียร์และแป้ง รวมถึงนำไปทำเป็นขนมปังและอาหารเช้าต่างๆ ด้วยเช่นกัน
ข้าวบาร์เลย์ สารอาหารมีอะไรบ้าง
ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์อย่างหนึ่งคือมีสารอาหารสำคัญๆ มากมาย เช่น
- คาร์โบไฮเดรต
- ใยอาหาร
- โปรตีน
- วิตามิน: วิตามินบี3 วิตามินบี6 วิตามินบี2 และโฟเลต
- แร่ธาตุ: แมงกานีส โมลิบดีนัม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ซีลีเนียม ซิงก์ ธาตุเหล็ก ธาตุคอปเปอร์ โพแทสเซียม รวมถึงแคลเซียม
- มีสารต้านอนุมูลอิสระ: ฟลาโวนอยด์ แอนโธไซยานิน
7 ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์ อุดมด้วยสารอาหารมากมายที่มีประโยชน์
ด้วยความที่ข้าวบาร์เลย์อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ทำให้เป็นอาหารอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์ จะมีด้วยกันดังนี้
1. เป็นข้าวที่ดีต่อสุขภาพหัวใจ
ด้วยความที่ข้าวบาร์เลย์อุดมไปด้วยเบต้ากลูแคน ซึ่งเป็นใยอาหารที่จะจับตัวเข้ากักบคอเลสเตอรอลและกรดในกระเพาะอาหาร มีส่วนช่วยป้องกันการดูดซึมไขมันที่มากจนเกินไป และมีส่วนช่วยลดระดับไขมันเลว LDL ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
2. เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน
คนเป็นเบาหวานกินข้าวอะไรดี? บาร์เลย์มีดัชนีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวขาวมาก ใยอาหารละลายน้ำในบาร์เลย์จะสร้างเจลในระบบย่อยอาหาร ชะลอการย่อยคาร์โบไฮเดรตและการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือด ช่วยป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงและตกลงอย่างรวดเร็ว งานวิจัยพบว่าการบริโภคบาร์เลย์เป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคเบาหวานประเภท 2 และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวานได้ดีขึ้น
3. ดีกับระบบย่อยอาหาร
ใยอาหารหรือไฟเบอร์ในข้าวบาร์เลย์ จะมีส่วนช่วยกับระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายด้วยกันเพิ่มปริมาณกากอาหาร ทำให้ระบบขับถ่ายมีประสิทธิภาพและเป็นเวลามากขึ้น ป้องกันการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
4. มีส่วนช่วยควบคุมน้ำหนัก
ด้วยปริมาณใยอาหารสูง บาร์เลย์จึงให้ความรู้สึกอิ่มนานกว่าอาหารประเภทแป้งทั่วไป ช่วยควบคุมความอยากอาหารและลดปริมาณการบริโภคโดยรวม บาร์เลย์ยังมีแคลอรี่ต่ำกว่าข้าวขาวและข้าวสาลีขัดขาว ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก
5. เป็นข้าวที่ดีกับสุขภาพผิว
ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์อย่างหนึ่งที่เป็นจุดเด่น ก็คือเป็นธัญพืชที่มีวิตามินอีและซีลีเนียมที่มีส่วนช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสาเหตุของความเสื่อมผิวหนังที่จะเห็นมากขึ้นเมื่อมีอายุมากขึ้น
6. ดีกับกระดูก
เพราะข้าวบาร์เลย์อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพกระดูก ช่วยให้มวลกระดูกแข็งแรงมากขึ้น และมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน
7. เป็นอาหารสำหรับผู้หญิงวัยทอง
ร้อนวูบวาบวัยทองกินอะไรดี? ข้าวบาร์เลย์มีไฟโตเอสโตรเจน (phytoestrogen) ซึ่งเป็นสารจากพืชที่มีโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย การศึกษาบางชิ้นพบว่าอาจช่วยบรรเทาอาการวัยทองในสตรี เช่น อาการร้อนวูบวาบ และอาการทางจิตใจ
ข้าวบาร์เลย์ กินแทนข้าวได้ไหม
บาร์เลย์ สามารถนำมาหุงกินแทนข้าวได้ และบาร์เลย์ก็เป็นอาหารที่มีใยอาหารสูง มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ มากมายที่จำเป็นต่อร่างกาย และที่สำคัญคือเป็นธัญพืชที่มีค่าดัชนีน้ำต่ำตาล ทำให้เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานเป็นอย่างดี
โดยวิธีการหุง เพียงแค่แช่ข้าวไว้ ใส่ข้าวบาร์เลย์ที่แช่น้ำลงในหม้อหุงข้าว แค่นี้ก็สามารถกินข้าวบาร์เลย์แทนข้าวได้ง่ายๆ เหมือนกับการหุงข้าวปกติเลย
ประโยชน์ของข้าวบาร์เลย์มีด้วยกันหลายอย่าง โดยเฉพาะการที่ข้าวบาร์เลย์เป็นมิตรกับสุขภาพหัวใจ มีส่วนช่วยลดไขมันเลว LDL ในเลือด เช่นเดียวกับ KINN NATTO ที่มี เร้ด ยีสต์ ไรซ์ มีนัตโตะ และสารสกัดจากชาเขียว ซึ่งมีส่วนช่วยลดไขมันเลวอย่างคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ และมีส่วนช่วยเพิ่มไขมัน HDL ที่ร่างกายของเราต้องการด้วยเช่นกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม:
ประโยชน์จากข้าวแช่ ทานอย่างไร ทำไมต้องทานในหน้าร้อน