เชื่อว่ามีทั้งคนที่ชอบทานผักและไม่ชอบทานผัก แต่การทานผักเป็นประจำ ใส่ผักไปในอาหารทุกมื้อก็จะมีประโยชน์หลายอย่างที่ดีต่อร่างกาย ทำให้การทานผักนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรทาน ซึ่งในบทความนี้ เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับ ประโยชน์ของกะหล่ำปลี ซึ่งเป็นผักอย่างหนึ่งที่ทานได้ง่าย ดีต่อร่างกายในหลายด้าน และจะอธิบายเกี่ยวกับโรคที่ห้ามกินกะหล่ำปลีด้วย ว่าโรคอะไรบ้างที่ต้องระวังการทานกะหล่ำปลีเป็นพิเศษ
7 ประโยชน์ของกะหล่ำปลี ทานง่าย ดีต่อสุขภาพ
กะหล่ำปลี เป็นผักอย่างหนึ่งที่มีแคลอรี่ต่ำ วิตามินซีและวิตามินเคสูง โฟเลต แมงกานีส และใยอาหารสูงด้วยเช่นกัน รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ทำให้เป็นผักตัวเลือกหนึ่งที่มีประโยชน์อย่างมาก ซึ่งประโยชน์ของกะหล่ำปลี จะมีด้วยกันดังนี้
1. เป็นผักช่วยลดอาการอักเสบ
เพราะกะหล่ำปลีจะมีสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่เรียกว่าซัลโฟราเฟน (Sulforaphane) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการอักเสบได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคข้ออักเสบ
2. ดีต่อระบบย่อยอาหาร
กะหล่ำปลี เป็นผักที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับระบบย่อยอาหาร ช่วยเพิ่มจำนวนอุจจาระ กระตุ้นให้เกิดการขับถ่าย และยังช่วยสร้างแบคทีเรียที่จำเป็นในกระเพาะอาหารด้วยเช่นกัน
3. ดีต่อสุขภาพหัวใจ
ในกะหล่ำปลีจะมีแอนโทไซยานีน (Anthocyanins) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่มีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจโดยการเข้าไปลดความดันโลหิต และช่วยป้องกันการอุดตันภายในเส้นเลือด
4. ช่วยลดคอเลสเตอรอล
ประโยชน์ของกะหล่ำปลีอย่างหนึ่งคืออาจมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลหรือไขมันเลว LDL ได้ด้วย เพราะไฟเบอร์ในกะหล่ำปลี จะทำหน้าที่เข้าไปจับกับน้ำดี ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับคอเลสเตอรอลออกจากร่างกาย ซึ่งมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกายได้
5. เป็นผักที่ดีต่อกระดูก
วิตามินเค เป็นวิตามินที่สำคัญต่อกระดูกไม่แพ้แคลเซียมเลย ซึ่งกะหล่ำปลีจะเป็นผักที่มีวิตามินเคสูง ซึ่งทำหน้าที่ในการดูดซับแคลเซียมเข้าสู่กระดูก และมีส่วนช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง ลดโอกาสการแตกหักของกระดูกได้เช่นกัน
6. มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก
เนื่องจากเป็นผักที่มีแคลอรี่ต่ำ รวมถึงมีไฟเบอร์หรือใยอาหารสูง ทำให้เมื่อกินกะหล่ำปลี จะทำให้เรามีความรู้สึกอิ่มที่นานมากขึ้น และเหมาะกับการเป็นผักลดน้ำหนัก ทานในช่วงก่อนและหลังออกกำลังกายได้ด้วยนะ
7. อาจมีส่วนช่วยต้านมะเร็ง
กลูโคซิโนเลต (Glucosinolates) ที่มีอยู่ในผักกะหล่ำปลี นับว่าเป็นสารประกอบอย่างหนึ่งที่อาจมีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ซึ่งมีการศึกษามาว่าอาจป้องกันมะเร็งได้บางชนิด ช่วยร่างกายของเราในการกำจัดสารก่อมะเร็งได้
กะหล่ำปลีดิบ กินได้ไหม?
กะหล่ำปลีดิบ สามารถทานได้ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทานในปริมาณมาก ๆ ติดต่อกัน เพราะในกะหล่ำปลีจะมีสารออกซาเลต ที่เมื่อมีมากเกินไป อาจมีความเสี่ยงโรคนิ่วในไตได้ และกะหล่ำปลีดิบก็จะมีกอยโตรเจน หากภายในร่างกายมีมาก ๆ จะทำให้มีความเสี่ยงต่อโรคคอหอยพอก
โรคที่ห้ามกินกะหล่ำปลี
- ภาวะไทรอยด์ทำงานต่ำ (Hypothyroidism) เพราะกะหล่ำปลีเป็นผักที่มีกอยโตรเจน ซึ่งหากทานมาก ๆ อาจรบกวนการทำงานของการสร้างฮอร์โมนของไทรอยด์มากกว่าเดิมได้
- โรคทำไส้แปรปรวน (Irritable Bowl Syndrome) กะหล่ำปลีดิบ จะย่อยยากกว่ากะหล่ำปลีสุก ทำให้อาจเกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร และอาจทำให้อาการกำเริบได้
- โรคกรดไหลย้อน การทานผักกะหล่ำปลี บางครั้งก็อาจทำให้อาการกรดไหลย้อนกำเริบได้ โดยเฉพาะการทานแบบดิบ
- โรคไต เพราะกะหล่ำปลีมีโพแทสเซียมสูง หากทานโดยที่ไม่ได้ควบคุมปริมาณ อาจทำให้โรคไตกำเริบได้
ประโยชน์ของกะหล่ำปลี มีด้วยกันหลายอย่างเลย ซึ่งเป็นผักชนิดหนึ่งที่ทานง่าย แนะนำว่านำไปต้มให้สุกก่อนทาน สามารถทานได้กับหลายอย่างทั้งเนื้อสัตว์ และนำไปทำเป็นสลัดผักก็สามารถทำได้เช่นกัน การทานกะหล่ำปลี อาจเป็นผักทางเลือกหนึ่งสำหรับคนไม่ชอบผัก ให้หันมาทานผักกันเยอะ ๆ
อ่านบทความเพิ่มเติม :
8 ผักที่มีแคลเซียมสูง ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน บำรุงกระดูก
9 ประโยชน์ของพริกหยวก ผักวิตามินซีสูง เหมาะทุกจานอาหาร
6 ประโยชน์ของผักโขมต่อร่างกาย ห้ามกินกับอะไร และข้อควรระวัง
สั่งซื้อ คลิกที่นี่