ท่ามกลางหิมะอันเหน็บหนาวในฮอกไกโดที่อยู่ตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น หนุ่มไทยร่างท้วมสองคนกำลังตื่นเต้นที่จะได้ไปเที่ยวบ้านอาจารย์ที่ปรึกษาชาวญี่ปุ่น ต่างคิดว่าจะได้ทานอะไรอร่อยๆ อย่างเช่น ปูยักษ์ ชีส และเบียร์ ซึ่งเป็นของดังประจำเมือง
และแล้วเมื่อมาถึงบ้านของอาจารย์ ก็ได้พบกับภรรยาของท่านซึ่งรอต้อนรับอยู่ที่ประตูบ้าน เมื่อเข้าไปจะเหมือนกับเข้าสู่อีกมิติหนึ่ง เพราะภายในบ้านอุ่นมากจนต้องถอดเสื้อกันหนาวออกทั้งหมด เจ้าบ้านได้พาชมส่วนต่างๆ ของบ้านแล้วจึงพาไปร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน แบบนั่งพื้นห้อยขาลงใต้โต๊ะโคะทัสซทึที่มีเครื่องทำความร้อนติดอยู่และมีผ้าห่มคลุมเพื่อเพิ่มความอบอุ่น
ในเวลานี้ชายหนุ่มทั้งสองแทบจำไม่ได้แล้วว่ารสชาติอาหารในวันนั้นล้ำเลิสเพียงใด แต่มิตรภาพระหว่างเพื่อนรักทั้งสองยังคงไม่มีวันลบเลือนแม้เวลาผ่านไปกว่าสิบปีแล้ว….เพราะสิ่งที่ทั้งสองได้พูดคุยกันระหว่างเดินทางกลับจากงานเลี้ยงว่า…
(ขออนุญาตใช้ภาษาพูดระหว่างผู้ชาย เพื่อความสมจริง)
ชายคนแรก: กูโคตรอายจริงๆ วันนี้
ชายเพื่อนรัก: กูรู้
ชายคนแรก: อาจารย์กับภรรยาเค้าสุดยอดจริงๆ ที่ไม่แสดงอาการอะไรสักนิด ยิ่งทำให้กูยิ่งรู้สึกผิดกว่าเดิม
ชายเพื่อนรัก: กูเข้าใจ
ชายคนแรก: ไอ้กูก็ตัวใหญ่ เดินมากๆ แล้วเหงื่อออกในรองเท้า ตอนเข้าบ้านเค้าแล้วต้องถอดรองเท้า กูไม่รู้จะทำไงจริงๆ หว่ะ ภาษาญี่ปุ่นก็ยังไม่แข็งแรง จะแก้ตัวก็พูดไม่ถูก ได้แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ถอดถุงเท้าเก็บใส่กระเป๋ากางเกงเอาไว้ หวังว่าจะช่วยลดกลิ่นได้ แต่ตอนที่นั่งกินข้าว เอาเท้าซุกเข้าไปใต้โต๊ะโคะทัสซทึ นี่กลิ่นยิ่งตลบหนัก ยิ่งกว่ากลิ่นปลาเค็มซะอีก
ชายเพื่อนรัก: อืม
ชายคนแรก: ขอบใจ แค่ฟังกูระบายความอายก็ยังดี
ชายเพื่อนรัก: สิ่งที่กูช่วยมึงไปแล้วคือ ช่วงที่กินข้าว กูปล่อยให้มึงคุยกับอาจารย์ไป แล้วกูก็พยายามหายใจเข้าไปลึกๆ ถี่ๆ สูดกลิ่นเข้าไปเยอะๆ เผื่อกลิ่นปลาเค็มมันจะจางลงบ้าง เห็นมั้ยว่าจมูกกูบานหมดแล้ว
เรื่องราวจบด้วย ทั้งสองหนุ่มเสียบยาดมที่พกมาจากเมื่องไทยกันคนละสองแท่งระหว่างเดินทางกลับบ้าน และทุกครั้งที่ดมยาดมก็จะนึกถึงเรื่องฮานี้
เรื่องเล่านี้นอกเหนือจากความตลกจริงใจของสองเพื่อนรัก ดิฉันถอดบทเรียนที่เชื่อมโยงกับงานได้ 2 เรื่อง
- ปัญญาชน หรือผู้ที่เจริญแล้ว จะไม่ตอกย้ำจุดด้วยของผู้น้อย และด้วยวิธีนั้น ความสัมพันธ์ และความเคารพจากผู้น้อยยิ่งสูงขึ้น
- เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์หลักของการทำธุรกรรมร่วมกัน ควรมองข้ามหรืออดทนกับสิ่งอันไม่พึงประสงค์ที่เกินความคาดหมายให้ได้
ในการทำงาน แม้อาจจะเจอปัญหาบ้าง แม้อาจจะรู้สึกเหมือนไม่มีที่พึ่งบ้าง ที่จริงแล้ว สิ่งดีๆ ที่ท่านได้เคยช่วยผู้อื่นไว้ อาจจะมีคนแอบพยายามช่วยเพื่อตอบแทนหรือให้กำลังใจท่านตามกำลังของเขาอยู่ก็ได้ เพราะผู้ที่ปรารถนาดีตัวจริงมักมองหาความสุขจากการได้ช่วยหรือได้ตอบแทน มากกว่าความสุขจากการได้รับความขอบคุณ หรือคำชม
จะจริงหรือไม่ ท่านสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตนเองโดยการตั้งใจช่วยบรรเทาความทุกข์ของผู้อื่นผ่านงาน หรือบทบาทของท่านในรูปแบบที่ไม่ผิดต่อจรรยาบรรณ แล้วเปรียบเทียบระดับความรู้สึกสุขใจของตัวท่านเองกับเวลาทำงานที่ท่านทำโดยไม่ได้มีวัตถุประสงค์ใดเป็นพิเศษนอกจากการทำตามหน้าที่
……………..
ขอบคุณภาพประกอบจาก: 581188-free-download-best-friends-wallpaper-1920×1200.jpg (825×550) (wallpapertag.com)
โดย ดร.วรัญญา อัจฉริยะชาญวณิช
Change Tutor – นักพัฒนาดาวเด่นในองค์กรแบบพุ่งเป้า
Founder & Managing Director, Wintegrate 99 Co., Ltd.
DCP 266/18, Certified Project Management Professional of PMI
ผู้แต่งหนังสือ The Change Tutor – จะเรียกดิฉันว่าหมอดูก็ได้ถ้าคุณยอมเปลี่ยน
17/03/2564