นิ่วในไต เป็นภาวะหนึ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยหลายปัจจัยและมีหลายรูปแบบ ทั้งนิ่วในไตที่เป็นแบบก้อนแคลเซียม นิ่วในไตจากการติดเชื้อท่อปัสสาวะ นิ่วที่เกิดจากกรดยูริกสะสมหรือเกิดจากการป่วยโรคเก๊าท์ และนิ่วซิสทีนที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกาย ผู้ป่วยภาวะนิ่วในไต ต้องมีการรักษารวมถึงการดูแลตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำให้เพียงพอ การทานยา หรือบางคนก็อาจต้องผ่าตัด และอาหารก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับภาวะนี้เช่นกัน ในบทความนี้ เราจะมาอธิบายว่า เป็นนิ่วในไตห้ามกินอะไร อาหารทุกชนิด เช่น ผักและผลไม้ มีอะไรบ้างที่ควรเลี่ยง
อาหาร ส่งผลทำให้เกิดนิ่วในไตได้จริงหรือไม่?
นิ่วในไตอาจเกิดขึ้นได้จากการรับประทานอาหาร ประเภทของนิ่วในไตที่มีความเกี่ยวข้องกับการทานอาหาร จะเป็นนิ่วในไตที่เกิดจากการก่อตัวของแคลเซียม และนิ่วในไตจากกรดยูริก
ก่อนจะรู้ว่าเป็นนิ่วในไตห้ามกินอะไร ก็ขอพาไปรู้จักกับสาเหตุด้านอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งชองการเกิดของการเกิดภาวะนิ่วทั้ง 2 ประเภทนี้ก่อน
- Calcium stone หรือนิ่วในไตที่มีแคลเซียมเป็นส่วนประกอบ เป็นประเภทของนิ่วในไตที่สามารถพบได้บ่อยที่สุด หรือกว่า 80% เมื่อเทียบกับประเภทอื่น ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากอาหารที่มีออกซาเลต (Oxalate) สูง เช่น ผักโขม ถั่ว ช็อกโกแลต รวมถึงอาหารที่มีโซเดียมสูงด้วยเช่นกัน
- Uric acid stone หรือนิ่วกรดยูริก ภาวะนิ่วประเภทนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับการทานอาหารที่มีปริมาณพิวรีนสูง เช่น เนื้อแดง เครื่องใน หอย ไก่ รวมถึงอาหารที่มีน้ำตาลสูงก็เป็นปัจจัยเสี่ยงได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ นิ่วซิสทีน (Cystine stone) ก็อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาหาร อย่างอาหารที่มีโซเดียมสูงจะสามารถเพิ่มการขับซิสทีนในปัสสาวะ นำไปสู่นิ่วในไตซิสทีนได้ แต่นิ่วประเภทนี้พบได้ยากกว่าประเภทอื่น ๆ และอาจมีสาเหตุจากภาวะทางพันธุกรรมมากกว่า
เป็นนิ่วในไตห้ามกินอะไร รวมอาหาร 4 ประเภทที่ควรเลี่ยง
เป็นนิ่วในไตห้ามกินอะไร? เราอาจจะแบ่งอาหารแบบกว้าง ๆ แต่เข้าใจง่ายออกเป็น 4 ประเภท ซึ่งจะมีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ ดังนี้
1. อาหารที่มีออกซาเลตสูง
ซึ่งเป็นอาหารที่อาจทำให้เกิดนิ่วที่มีแคลเซียมออกซาเลตเป็นส่วนประกอบ (Calcium stone) ซึ่งเป็นประเภทของนิ่วในไตที่พบได้บ่อยที่สุด อาหารที่ควรเลี่ยงจะมีดังนี้
- ผักโขม
- บีทรูท
- ถั่ว เช่น อัลมอนด์ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วเหลือง ถั่วอื่น ๆ ที่มีออกซาเลตสูง
- ช็อกโกแลต
- ชาบางชนิด โดยเฉพาะชาดำ
- แบล็กเบอร์รี
- ราสเบอร์รี
- มะเดื่อ
- กระเจี๊ยบ
2. อาหารที่มีพิวรีนสูง
การทานอาหารที่มีปริมาณพิวรีนสูงมาก ๆ และอาหารที่มีฟรุกโตสสูงหรืออาหารรสหวาน ก็อาจทำให้เกิดนิ่วในประเภทนิ่วกรดยูริก (Uric acid stone) ซึ่งอาหารที่ควรเลี่ยง จะมีดังนี้
- เนื้อแดง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู นิ้วแกะ
- เครื่องใน เช่น ตับหมู ไส้ หรือเครื่องในสัตว์ทุกชนิด
- กุ้ง ปู
- ปลาบางชนิด เช่น แองโชวี่ ปลาซาร์ดีน
- แอปเปิล
- ลูกแพร
- องุ่น
- ผลไม้ตากแห้ง
- เครื่องดื่มให้ความหวาน เช่น โซดา คอร์นไซรัป
- ลูกอม
- ขนมอบและของหวาน
3. อาหารที่มีโปรตีนสูง
- เนื้อสัตว์ เนื้อวัว เนื้อหมู จะเข้าไปเพิ่มกรดในปัสสาวะได้
- ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของนม เช่น ชีส โยเกิร์ตบางยี่ห้อ อาจทำให้แคลเซียมออกซาเลตสูงเกินไปในปัสสาวะ
4. อาหารที่มีโซเดียมสูง
ปริมาณโซเดียมในร่างกายที่สูงเกินกว่าที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน (2,000 มิลลิกรัมต่อวัน) อาจทำให้อาการนิ่วในไตแย่ลงได้ ซึ่งอาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น
- อาหารแปรรูปต่าง ๆ เช่น อาหารไมโครเวฟ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น
- ขนมขบเคี้ยว
- ก๋วยเตี๋ยว น้ำซุป
- เครื่องปรุงที่มีรสชาติเค็มจัด
เป็นนิ่วในไตห้ามกินอะไร? อาหารที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น เป็นอาหารที่ต้องควบคุมปริมาณเป็นพิเศษ แต่ทางที่ดีที่สุดคือควรเลี่ยง เพื่อให้นิ่วในไตหายไว ลดโอกาสอาการกำเริบให้ได้มากที่สุด
อ่านบทความเพิ่มเติม :
8 ผักที่มีกรดยูริกสูง กินแบบพอดี ลดเสี่ยงเก๊าท์ บรรเทาอาการ
ผลไม้ที่มีกรดยูริกสูง กินแบบพอดี ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อ กรดยูริกในเลือดสูง
สั่งซื้อ คลิกที่นี่