วิตามิน คือสารอาหารอย่างหนึ่งที่จำเป็นอย่างมากต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้จำเป็นต้องเติมวิตามินให้กับร่างกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน วิตามินชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์และขาดไม่ได้เช่นเดียวกับสารอาหารชนิดอื่น ๆ คือวิตามินเอ ที่จำเป็นอย่างมากต่อดวงตาและการมองเห็น แล้ว วิตามินเอ ประโยชน์ของมันมีอะไรบ้างนอกจากดีต่อดวงตาและเป็นอาหารบำุงสายตาสำหรับผู้สูงอายุ วิตามินเอ ปริมาณต่อวันเท่าไหร่ แล้วอาหารอะไรบ้างที่มีวิตามินเอสูง ป้องกันร่างกายขาดวิตามินเอ
วิตามินเอ ประโยชน์ 6 อย่าง ที่ดีต่อร่างกาย
การทานอาหารที่มีวิตามินเอ หรือทานอาหารเสริมวิตามินเอ จะมีส่วนช่วยในด้านต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยในเรื่องของสุขภาพดวงตาและการมองเห็น เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ดีต่อสุขภาพผิว ดีต่อระบบสืบพันธุ์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และสำคัญต่อสุขภาพกระดูก
1 .ช่วยในเรื่องของสุขภาพดวงตาและการมองเห็น
วิตามินเอกับสุขภาพดวงตาเป็นของคู่กัน ซึ่งบทบาทหนึ่งที่สำคัญที่สุดของวิตามินเอคือการรักษาการมองเห็นของเราให้อยู่ในสภาพที่ดี โรดอปซิน (Rhodopsin) เป็นโปรตีนในดวงตาที่ทำให้เรามองเห็นได้ในสภาพที่มีแสงน้อย ซึ่งวิตามินเอ ประโยชน์อย่างหนึ่งคือทำให้โรดอปซินทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงป้องกันกระจกตา และอาจมีส่วนช่วยลดการเกิดต้อกระจก หรือจะประสาทตาเสื่อมได้ด้วย
2 .เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
วิตามินเอ จะช่วยสนับสนุนการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวและเซลล์เยื่อเมือกที่สามารถพบได้ที่ระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหารและทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นด่านแรกของร่างกายในการป้องกันการติดเชื้อ
3 .ดีต่อสุขภาพผิว
วิตามินเอ ประโยชน์อย่างหนึ่งคือมีส่วนช่วยในการส่งเสริมการผลิตเซลล์ ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวหนังและอาจมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงต่อปัญหาผิวหนังอย่างสิวได้ อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้วิตามินเอรักษาสิว
4 .ดีต่อระบบสืบพันธุ์
วิตามินเอเป็นวิตามินที่มีความสำคัญอย่างมากต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และจำเป็นต่อพัฒนาการของเอ็มบริโอระหว่างการตั้งครรภ์ แต่ถ้าหากรับปริมาณวิตามินเอมากเกินไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้
5 .เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
วิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ซึ่งมีส่วนช่วยในการปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายโดยอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเรื้อรังต่าง ๆ และดีต่อสุขภาพโดยรวม
6 .สำคัญต่อสุขภาพกระดูก
สารอาหารที่สำคัญต่อกระดูกมีทั้งโปรตีน แคลเซียม และวิตามินดี รวมถึงวิตามินเอที่สำคัญต่อการการเปลี่ยนแปลงของกระดูก จำเป็นอย่างมากต่อความแข็งแรงของกระดูก
วิตามินเอ อาการเมื่อขาด เป็นอย่างไร?
- ตาบอดตอนกลางคืน (Night blindness)
- ตาแห้ง (Xerophthalmia)
- กระจกตาอ่อนตัว (Keratomalacia)
- เกล็ดกระดี่ขึ้นตา (Bitot’s spots)
- ภูมิคุ้มกันต่ำลง
- มีปัญหาผิวหนัง ผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย
- มีปัญหาการเจริญเติบโตในเด็ก
- มีปัญหาสุขภาพการสืบพันธุ์
- โลหิตจาง
วิตามินเอ ปริมาณต่อวัน ควรได้รับเท่าไหร่?
วิตามินเอ ประโยชน์มีหลายอย่าง แต่ปริมาณที่ควรได้รับต่อวันอยู่ที่เท่าไหร่ เท่าไหร่ถึงจะมากไป? (หน่วยเป็น mcg RAE ไมโครกรม อาร์เออี)
เด็กทารก
0-6 เดือน : 400 mcg RAE/วัน
7-12 เดือน : 500 mcg RAE/วัน
วัยเด็ก
1-3 ปี : 300 mcg RAE/วัน
4-8 ปี : 400 mcg RAE/วัน
9-13 ปี : 600 mcg RAE/วัน
วัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่
ผู้ชายอายุ 14 ปีขึ้นไป : 900 mcg RAE/วัน
ผู้หญิงอายุ 14 ปีขึ้นไป : 700 mcg RAE/วัน
คนท้อง
14-18 ปี : 750 mcg RAE/วัน
19 ปีขึ้นไป : 770 mcg RAE/วัน
ช่วงให้นมบุตร
14-18 ปี : 1,200 mcg RAE/วัน
19 ปีขึ้นไป : 1,300 mcg RAE/วัน
การรับวิตามินเอมากเกินไป อาจมีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน
อาหารที่มีวิตามินเอสูง มีอะไรบ้าง?
แหล่งวิตามินเอจากเนื้อสัตว์และอาหารจากสัตว์
- ตับ : ตับหมู ตับไก่ ตับจากสัตว์ทุกชนิด เป็นแหล่งวิตามินเอที่มีเยอะที่สุด
- ปลา : ปลาแซลมอน แมคเคอเรล ปลาทูน่า
- นม : นม ชีส เนย โยเกิร์ต
- ไข่ : ไข่แดงมีวิตามินเอสูง
แหล่งวิตามินเอจากผัก ที่มีเบต้า แคโรทีนสูง (Beta-carotene)
- แครอท
- มันหวาน
- ฟักทอง
- ผักโขม
- ผักเคล
- พริกหยวกสีแดง
- มะม่วง
- แคนตาลูป
- แอปริคอต
สรุป วิตามินเอ ประโยชน์มีหลายอย่าง ทั้งดีต่อสุขภาพดวงตาและการมองเห็น ภูมิคุ้มกัน สุขภาพผิว ระบบสืบพันธุ์ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและดีต่อสุขภาพกระดูก อย่างไรก็ตาม การรับวิตามินเอเข้าร่างกายก็ต้องมีการควบคุมไม่ให้น้อยและมากจนเกินไป เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะต่าง ๆ
อ่านบทความเพิ่มเติม :
7 ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ผลไม้บำรุงผิว เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
รู้ยัง ! วิตามินเค ป้องกันกระดูกพรุน
ร้อนวูบวาบวัยทอง กินอะไรดี ช่วยลดอาการวูบวาบสำหรับสาววัย 40+